โคราช มอบเงินเยียวยาเหยื่อกราดยิง 4 ราย ‘น้องเนย’ เผยชีวิตสุดทรมาน ร่างกายยังฟื้นไม่ 100% ขอให้เป็นบทเรียนและเป็นครั้งสุดท้ายในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ที่ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางวันเพ็ญ อำพาส คลังจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันเป็นตัวแทนมอบเงินเยียวยาของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543

ซึ่งทางกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้วว่า มีบุคคล 4 ราย เข้าข่ายพลเมืองดีของสังคมในเหตุการณ์กราดยิง ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. 2563 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต รวม 31 ราย และได้รับบาดเจ็บ 58 ราย

นายวิเชียร กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดนครราชสีมาได้ดำเนินการช่วยเหลือครบทุกรายแล้ว ส่วนการมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือนอกเหนือจากที่เคยช่วยเหลือไป ตาม พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบภัยฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำความดีให้แก่สังคม แต่ได้รับอันตรายจนสูญเสียอวัยวะ พิการ ทุพพลภาพจนไม่สามารถทำงานได้หรือถึงแก่ความตาย ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ราชการ โดยมีการกำหนดให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยเป็นก้อนกรณีทุพพลภาพ ได้รับเงินดำรงชีพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต หรือกรณีถึงแก่ความตาย นอกจากจะได้รับเงินค่าพยาบาลก่อนถึงความตาย และเงินชดเชยแล้ว ยังมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพด้วย

สำหรับเหตุการณ์กราดยิง ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. 2563 มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาตเจ็บ เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรณีเสียชีวิตจ่ายให้ทายาท เป็นเงินชดเชย 450,000 บาท เงินค่าทำศพ 45,000 บาท ประกอบด้วย
1. นายอำนาจ บุญเอื้อ (จ่ายวันที่ 27 มี.ค. 2563) ผู้เสียชีวิต มอบให้ทายาท นางกัญญารัตน์ บุญเอื้อ (ภรรยา) 150,000 บาท และ ด.ญ.ธีรดา บุญเอื้อ (บุตร) 300,000 บาท
2. นายอธิวัฒน์ พรมสุข (จ่ายวันที่ 27 มี.ค. 2563) มอบให้ทายาท น.ส.อนงค์ สมหวัง (มารดา) 450,000 บาท
3. สิบเอกมรา เลิศศิริ (จ่ายวันที่ 26 ม.ค. 2563) มอบให้ทายาท นางกรรณิกร คอปแลนด์ (มารดา) 150,000 บาท ด.ช.วราวุฒิ เลิศศิริ (บุตร) 300,000 บาท

ส่วนกรณีทุพพลภาพขนาดหนัก จ่ายเงินชดเชยให้กับ นายจิรัฐิติกาล นอบไทย (น้องเนย) จำนวน 520,000 บาท และเงินดำรงชีพรายเดือน เดือนละ 7,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป

โดยน้องเนย เปิดเผยถึงสภาพร่างกายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวว่า บาดแผลที่เกิดจากวิถีกระสุนเข้าบริเวณท้องและแขนซ้าย ทำลายอวัยวะภายในช่องท้องและแขนเส้นเอ็นขาดแต่ต้องเสียไต 1 ข้าง และแขนไม่มีแรงเพราะเอ็นขาด การขับถ่ายต้องผ่านถุงพลาสติก ลำไส้อยู่นอกร่างกาย ตนได้อดทนและพยายามช่วยเหลือตนเองและฝึกทำกายภาพบำบัดจนร่างกายฟื้นกลับมาประมาณ 70 % ซึ่งแพทย์ได้นัดผ่าตัดเอาลำไส้เก็บเข้าท้องในเดือน เม.ย.นี้ แต่ยังไม่สามารถทำงานได้ เพราะร่างกายไม่แข็งแรง แต่ยังพอขับรถยนต์ไปทำกายภาพบำบัดทุกวันจันทร์ได้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัว

“ฝากขอบคุณแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมถึงกำลังใจของพี่น้องชาวไทย ได้ช่วยรักษาจนกลับมาได้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอให้เป็นบทเรียนและเป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดในประเทศไทย” น้องเนย กล่าว