เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ญาติเด็กชายวัย 7 ขวบ ได้ส่งเรื่องร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯเรื่องเด็กโดน “พ่อเลี้ยง” ใช้เบ็ดตกปลาฟาดน่วมช้ำไปทั้งตัว แม้เรื่องถึงตำรวจแล้วแต่กลัวคดีจะเงียบ

ญาติเด็กชายวัย 7 ขวบ ส่งเรื่องร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ เด็กโดน “พ่อเลี้ยง” ใช้เบ็ดตกปลาฟาดน่วมช้ำไปทั้งตัว แม้เรื่องถึงตำรวจแล้วแต่กลัวคดีจะเงียบ ด้านแม่เด็กโดดป้องพ่อเลี้่ยง รับตีลูกเองคนเดียว เพราะโมโหพยายามขโมยเงินไปให้พ่อแท้ ๆ ขณะที่พ่อเด็กยันไม่เคยสอนลูกเป็นขโมย เรื่องที่เกิดขึ้นรับไม่ได้ ต้องเอาผิดอดีตภรรยาและพ่อเลี้ยงให้เด็ดขาด

จากกรณีญาติของ ด.ช.บอล (นามสมมุติ) วัย 7 ขวบ ได้ส่งข้อความร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ด.ช.เอ โดนพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ ทุบตีจนบอกช้ำไปทั้งร่าง ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จ.นครพนม มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนมแล้ว แต่กลัวเรื่องเงียบหายไป อยากขอให้ทางมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมกับเด็ก
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ร.ต.อ.ชยภัทร โพธิจักร รอง สว.สภ.ธาตุพนม เจ้าของคดีเปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 – 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดย นายบอส (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พ่อของ ด.ช.บอล ได้เข้ามาแจ้งความอ้างว่า ลูกชายโดนพ่อเลี้ยงคือ นายเต้ (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 33 ปี และแม่แท้ๆ ของเด็ก คือ น.ส.เค้ก (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) ร่วมกันทุบตี ด.ช.บอล จนบอบช้ำเนื้อแตกไปทั่วตัว ภายหลังมีการเรียกทั้งสองมาพบแล้ว ฝ่าย น.ส.เค้ก ให้การอ้างว่าเป็นคนตีลูกเพียงคนเดียว เพราะโมโหที่ลูกชายขโมยเงินไปให้พ่อแท้ ๆ ตำรวจจึงส่งเด็กไปอยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม (พม.ฯ) รอให้มีสภาพจิตใจดีกว่านี้ก็จะไปสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพต่อไป
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางญาติฝ่ายพ่อเด็กได้ออกมายืนยันว่า น.ส.เค้กได้เลิกกับนายบอลไปนานแล้ว แต่ฝ่ายหญิงนำลูกไปเลี้ยง ภายหลังคบหากับ นายบอส ก็ร่วมกันเปิดแผงขายลอตเตอรี่ ขณะที่ นายบอล เป็นช่างภาพอิสระ รับจ้างถ่ายรูปให้กับผู้มากราบนมัสการพระธาตุพนม ช่วงหลังฝ่ายอดีตภรรยาให้ตนไปดูลูกเพราะจะขายของ พอเห็นเนื้อตัวลูกมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย ทั้งยังมีอาการซึมเศร้า บอกเองว่าพ่อเลี้ยงใช้คันเบ็ดและไม้แขวนผ้าตี บังคับให้ยอมรับว่า เป็นคนขโมยเงินมาให้ตน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตนยอมรับไม่ได้ เพราะตนไม่เคยสอนให้ลูกไปลักขโมยเงินใครทั้งสิ้น ยืนยันแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด