เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เศรษฐีนีเจ้าของโรงแรมย่านวิภาวดีฯ ตายในสระว่ายน้ำโรงแรม แม่บ้านคนสนิทเชื่อว่าไม่น่าจะฆ่าตัวตาย ระบุสร้อยคอทองคำที่ใส่ประจำหายไป ตำรวจนำกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไขปริศนาคดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ก.พ.64 ร.ต.อ.พิทยุตม์ มีนชัยนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุพบศพหญิงเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยวิภาวดี 6 แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารทำเป็นโรงแรมสูง 10 ชั้น ที่บริเวณสระว่ายน้ำชั้น 3 ขนาดประมาณ 10×4 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร โดยน้ำภายในสระมีตะไคร่ขึ้น น้ำเขียวขุ่น ไม่ได้อยู่ในสภาพของการใช้งานแต่อย่างใด พบศพหญิงลอยน้ำอยู่ในสระในสภาพลอยคว่ำหน้า ทราบชื่อต่อมาว่า นางวรปราณี สุทธิรัตน์ อายุ 83 ปี เป็นเจ้าของโรงแรม เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูลงไปเก็บกู้ขึ้นจากสระ เพื่อให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลรามาฯตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลภายนอกร่างกาย คาดว่าเวลาเสียชีวิตระหว่าง 2-8 ชั่วโมง

ขณะที่ ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ตรวจสอบบริเวณโดยรอบโรงแรม พบรองเท้าใส่เดินในห้องของผู้ตาย 1 ข้าง ตกอยู่บริเวณบันไดหนีไฟ บริเวณชั้น 6 ใกล้กันมีหน้าต่างเปิดอยู่ 1 บาน หากมองลงมาด้านล่างจะตรงกับสระว่ายน้ำที่เกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบห้องพักของผู้เสียชีวิตที่ชั้น 9 ตำรวจพบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารซึ่งมียอดเงินคงเหลือในบัญชีหลายล้านบาท และผู้เสียชีวิตเป็นคนมีฐานะ มีรถเบนซ์ขับ อีกทั้งตำรวจยังพบรอยลากปริศนาปรากฏบนพื้นที่เปื้อนฝุ่นเป็นทางยาวที่บริเวณชั้น 9 เป็นห้องพักผู้เสียชีวิต และบริเวณห้องน้ำชายชั้น 3 ไปถึงสระว่ายน้ำที่เกิดเหตุเป็นระยะทางประมาณ 6 เมตร ทั้งนี้โรงแรมที่เกิดเหตุยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่ไม่มีผู้พักอาศัย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

จากการสอบถามแม่บ้านของโรงแรมให้การว่า พบเห็นผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายช่วงเย็นวันที่ 6 ก.พ.64 ผู้เสียชีวิตมีท่าทางปกติ ไม่มีอาการเครียดจากการที่ไม่มีคนเข้าพักโรงแรมแต่อย่างใด และช่วงเช้าวันนี้ปกติผู้เสียชีวิตจะต้องลงมารับประทานอาหารเช้า แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลากลับไม่เห็นลงมาทานข้าวแต่อย่างใด ขณะที่ตนเองกำลังจะรดน้ำต้นไม้ แต่สายยางชำรุดจึงขึ้นมาที่สระว่ายน้ำเพื่อเอาสายยางเส้นใหม่ ทำให้พบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในสระน้ำจึงรีบแจ้งตำรวจ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตไม่ได้มีท่าทางเคร่งเครียดแต่อย่างใด นอกจากนี้สร้อยทองที่ผู้เสียชีวิตชอบใส่อยู่เป็นประจำก็หายไป ไม่พบที่ศพผู้เสียชีวิต

ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและเป็นไบโพลาร์ รวมถึงมีโรคประจำตัวแขนขาอ่อนแรง มักจะเดินลากขาเป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม ต้องรอผลการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด โดยให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางเข้าเก็บลายนิ้วมือบริเวณที่เกิดเหตุ และจุดที่พบรองเท้าใส่เดินในห้องที่ชั้น 6 เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวน รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายใน รวมถึงพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ต่อไป.