เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พ.ต.อ.ดร. พัทฐกร ศาสนะสุพินณ์ ผกก.สภ.เสลภูมิ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 20.00 น. ร.ต.อ.นที ทศวรรษ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจากนางไหว (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หลานสาวอายุ 12 ปี คลอดลูกที่โรงพยาบาลเสลภูมิ โดยจากการสอบถามหลานสาว บอกว่าถูกลุงข่มขืม ทราบชื่อในเวลาต่อมา ผู้ก่อเหตุคือนายใย อายุ 57 ปี ชาวอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จึงประสานไปยังชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติม

ชุดสืบสวนได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยเข้าพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายใย จึงให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือข่มเด็กหญิง จำนวน 3 ครั้ง โดยได้ลงมือข่มขืนที่บ้านของตน 2 ครั้ง และลงมือข่มขืนที่บ้านผู้เสียหายอีก 1 ครั้ง โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจะลงมือก่อเหตุในช่วงกลางวัน ในช่วงเดือน พ.ค. 63 ซึ่งในช่วงนั้นผู้เสียหายพึ่งจบ ป.6 อยู่ระหว่างจะสมัครเรียนเพื่อศึกษาต่อ แต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องพักอาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของตน โดยในการลงมือข่มขืนทุกครั้งจะให้เงิน 200 บาท และบอกว่าอย่านำเรื่องราวไปบอกใคร ซึ่งคำให้การของผู้ต้องหาสอดคล้องกันกับคำให้การของยายผู้เสียหาย

ล่าสุดเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ม.ค.64 พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานของศาลออกหมายจับกุมตัว นายใย ใน 3 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา, กระชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี  และ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อหากำไร หรือการอนาจาร ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ ดำเนินตามกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่จุดเกิดเหตุ บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบึงเกลือ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด พบกับภรรยาของผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามหญิง อายุ 53 ปี เล่าว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็รู้สึกเสียใจ เพราะไม่เคยคิดว่าสามีจะลงมือข่มขืนหลานสาว อายุ 12 ปีได้ลงคอ ซึ่งตนก็เพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อวานนี้ ถามสามีก็ยอมรับว่าได้ลงมือกระทำชำเราหลานสาวจริง ซึ่งตนก็คงจะให้สามีชดใช้กรรมที่ได้ทำลงไป ซึ่งโดยปกติสามีของตนเคยมีภรรยามาแล้ว แต่ก็ได้เลิกลากันไป ก่อนจะมาอาศัยอยู่กับตน ได้ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งแต่ก่อนก็เป็นคนดี ช่วยทำไร่ไถนา แต่ไม่รู้ว่าปมในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไร

สอบถามน้าชาย ของผู้เสียหาย เล่าว่าก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 23.30 ของวันที่ 27 ม.ค.63 แม่ของผู้เสียหายที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ได้โทรหาตนบอกว่าหลานสาวถูกลุงเขยข่มขืน ตอนนี้กำลังไปคลอดอยู่ที่โรงพยาบาลเสลภูมิ ตนจึงรีบเดินทางไปพบกับหลานสาวจึงได้ถามว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร

หลานสาวเล่าว่า เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2563 ในขณะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ในบ้าน เพราะตาออกออกไปทำงาน ส่วนยายไปซื้อของ ลุงเขยได้เข้ามาภายในบ้านของตน ซึ่งก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งหลานสาวก็ถามว่าเข้ามาทำอะไร ก่อนที่จะเดินมาประชิดตัวแล้วจับตัวเอาไว้ ก่อนจะใช้ผ้าขาวม้าอุดปาก บอกให้นอนลง ก่อนจะลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ซึ่งหลังจากนั้นได้เอาเงินให้หลานสาว 200 บาทและบอกว่าอย่าไปบอกใคร มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการข่มขืนที่บ้านของผู้ต้องหาอีก 2 ครั้ง โดยมีพฤติการณ์คล้ายกัน ตนก็รู้สึกเสียใจมาก ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตน ซึ่งตนก็จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหาบุกรุกเคหะสถานและกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งตนก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุดตามกฏหมายต่อไป