เมื่อวันที่ 20 มกราคม 64 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายคลุ้มหลังเดินอยู่กลางถนน หน้าวัดธรรมปัญญา อำเภอเมืองนครนายก ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นทางโค้งและถนนใหญ่ที่มีรถสัญจรและใช้ความเร็ว เกรงว่าจะได้รับอันตรายแก่ชายคนดังกล่าวและผู้ใช้ถนน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจคันแรกได้มาถึงได้เดินเข้าไปหาชายคนดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีเหตุรุนแรง
ชายคนดังกล่าวยอมให้ควบคุมตัวจากเกาะกลางถนน มาอยู่ริมถนน และได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบอกว่า ตนเองเป็นทหารอากาศโยธินหน่วยบัญชาการกรมสัญโชบาดร มาจากกาลเวลา กำลังจะเข้าสู่พระนครแห่งต้นเพลิง นามว่า นครนายก มาปฏิบัติภารกิจ เยี่ยงโกกหูแล้วก็ฆ่า 7 โคตรหมู่เหล่าของมหาดไทย โดยมาจากกลาโหม ผู้ใดอยู่ภายใต้ความเป็นมหาดไทยจงฟัง ตอนนี้กลาโหมคือความเป็นทหารทั้งหมด คือสุริยะเผ่าพันธุ์
โดยชายคนดังกล่าว ได้ถือเหล็กจำนวนหนึ่งที่ถูกมัดด้วยลวด ซึ่งตอนแรกคิดว่าใช้เป็นอาวุธ แต่เมื่อสอบถามชายคนดังกล่าวได้บอกว่า สิ่งที่เห็นอยู่นั้นคือเครื่องส่งสัญญาณ รหัสมอส พร้อมทั้งแสดงการส่งรหัสให้ดู ส่วนที่ตนต้องมาเดินกลางถนนแบบนี้เพราะว่าจะได้เป็นจุดเด่น และไม่เกรงว่าจะถูกรถชน เพราะว่ามหาดไทยที่ชนตนหนักยิ่งกว่ารถชนอีก เพราะตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในเส้นไฟแดงหรือจราจรกับตำรวจที่รับส่วยและได้กินสินบาทสินบนในบ่อนเจ็บปวดมากกว่าการยืนให้รถชน เพราะสัญญากลาโหมมหาดไทย
ด้านพลเมืองดีที่โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่า ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานออกมาซักผ้า ได้เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ริมถนนกำลังกองไม้อยู่กองหนึ่งคาดว่าอาจจะกำลังจะจุดไฟ จากนั้นตนได้ขับขี่รถผ่านไปและกลับมาอีกรอบก็พบว่าชายคนนี้เดินข้ามถนนโดยไม่สนใจอะไรเลย ซึ่งเกือบถูกรถที่ผ่านไปมาชน และมีคนเห็นว่าชายคนนี้ยืนขวางรถ10ล้อ และชายคนนี้ได้ถือเหล็กอยู่ในมือ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจสภ.เมืองนครนายกได้นำกำลังเข้าระงับเห็นและควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสงบสติอารมณ์ ที่สภ.เมืองนครนายก เนื่องจากตรวจสอบที่ร่างกาย เบื้องต้นไม่พบเอกสารระบุว่าเป็นใครมากจากไหน อีกทั้งชายคนนี้ไม่สามารถสื่อสารจับใจความได้
ข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน