เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พี่ชายหนุ่มคลั่ง เดินทางมารับร่างน้องชายและแม่ ไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดอินทราวาส ตั้งแต่คืนนี้จนถึงคืนวันศุกร์ที่ 22 ม.ค. พี่ชายเผยไม่ติดใจน้องถูกวิสามัญฯ เชื่อตำรวจตัดสินใจดีแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 20 ม.ค. แผนกนิติเวช รพ.ศิริราช นายนพดล กรานเคารพ อายุ 38 ปี บุตรชายคนกลางของ นางสุรางค์รัตน์ จ้อยเจือ อายุ 62 ปี และเป็นพี่ชายของ นายนนทชัย กรานเคารพ อายุ 38 ปี สองผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1 รูป พร้อมรถตู้บรรทุกศพ จากวัดอินทราวาส (วัดประดู่) ถนนบางระมาด เขตตลิ่งชัน เดินทางมารับศพมารดาและน้องชาย โดย นายนพดล กล่าวว่า จะนำแม่และน้องไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดอินทราวาส ตั้งแต่คืนนี้จนถึงคืนวันศุกร์ที่ 22 ม.ค.รวม 3 วัน เเล้วทำการฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 23 ม.ค.

โดยก่อนจะเผาร่างจะนิมนต์พระไปทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของแม่และน้อง รวมถึงสวดแผ่บุญกุศลทั้งที่บ้านและจุดวิสามัญฆาตกรรมด้วยเพื่อลดความหวาดกลัวของชาวบ้านและเพื่อความสบายใจของคนรอบข้างและคนในชุมชน

นายนพดล กล่าวด้วยว่า แพทย์ระบุสาเหตุการตายของแม่ตนว่า บาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะและคอ ส่วนน้องชายเสียชีวิตเพราะบาดแผลกระสุนปืนผ่านเนื้อสมอง กรณีที่น้องชายตนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ตนไม่ได้ติดใจใดๆ และคิดว่า น้องชาย น่าจะมีสามัญสำนึกรู้สึกผิดขึ้นมาบ้างหลังก่อเหตุทำร้ายแม่และเผาบ้าน จึงทำให้ตัดสินใจเดินเข้าไปหาตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องวิสามัญฆาตกรรมตามภาพเหตุการณ์ในคลิปที่มีพลเมืองดีถ่ายเอาไว้ได้ โดยหลังเกิดเรื่องตนและญาติๆ แบ่งหน้าที่กันโดยตนเป็นผู้มารับศพและจัดงานเรื่องงานศพ ส่วนญาติๆ จะช่วยกันดำเนินการเรื่องคดีกับทาง สน.บางเสาธง ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางโรงพักได้ประสานเรื่องขอรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมให้ครอบครัวตนด้วย

เมื่อถามว่าเหตุใดที่ผ่านมาชาวบ้านจึงแจ้งให้ตำรวจมาจับกุมนายนนทชัย อยู่บ่อยๆ นายนพพล ตอบว่า น้องตนมีความผิดปกติทางอารมณ์พอถูกกดดันจากคนรอบข้างก็มีอาการอาละวาดขึ้นมา เรื่องนี้อาจทำให้ญาติๆ หรือชาวบ้านเอือมระอาต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ซึ่งในมุมของเจ้าหน้าที่นั้นตนก็เข้าใจ ที่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า และน้องชายก็ไม่มีประวัติรักษาอาการทางจิต ที่ผ่านมาจึงมีอยู่เพียงคดีเดียวเท่านั้นคือน้องชายมีอาการกำเริบไปบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลในละแวกนั้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเท่าที่ทราบคือทาง ตำรวจ สน.บางเสาธง รับแจ้งความเอาไว้แล้วอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัวน้องชายไปดำเนินคดี เรื่องนี้ นายนนทชัย ก็คงทราบและเครียดจนเกิดความกดดัน จนมีเหตุการณ์สลดเกิดขึ้นมาดังกล่าว