เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมติดตามการตรวจสอบเบี้ยเลี้ยง โควิด-19 ว่า ผลจากการที่ ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.โดยเฉพาะ ผบ.ตร. ได้ใส่ใจติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยได้มาประชุมติดตามผลด้วยตัวเองถึง 2 ครั้ง ในช่วงเดือน พฤศจิกายน- ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และสั่งการให้ พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.สตส จัดกำลังชุดตรวจลงพื้นที่ตรวจคู่ขนานในหน่วยที่ถูกร้องเรียนอีกครั้ง ส่งผลให้ ทุก บช. มีการตรวจสอบเพิ่มเติม และนำไปสู่การเพิ่มโทษทางวินัยจากเดิม ให้หนักขึ้นตามพฤติกรรม

พบว่าทุก บช. มีข้าราชการตำรวจที่เข้าสู่กระบวนการทางวินัย ประมาณ 189 นาย จากพื้นที่ นครบาล และ ภ.จว.รวม  23 จังหวัด ทั้งระดับกองบังคับการ ภูธจังหวัด และ ระดับสถานีตำรวจ รวม 73 หน่วย โดยมีตั้งแต่ระดับ พล.ต.ต. หรือผู้บังคับการ 5 นาย พ.ต.อ. 48 นาย นอกนั้นเป็นระดับ รอง ผกก., สว., รอง สว. และ ผบ.หมู่ รวม 136 นาย ซึ่งมีการพิจารณาโทษตามแต่มูลเจตนาของผู้กระทำผิดตั้งแต่เบาไปถึงหนัก ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน การภาคฑัณฑ์ การกักยาม การกักขัง การตัดเงินเดือน และหนักสุดคือ การเสนอเข้าสู่การสอบสวนพิจารณาวินัยร้ายแรง ซึ่งหากมีหลักฐานยืนยัน ก็จะเข้าสู่การลงโทษ ปลดออก ไล่ออก และดำเนินคดีทางอาญาต่อไป

นอกจากนั้นยังได้ดำเนินการทางการปกครองอีกส่วนหนึ่ง โดยมีการย้ายข้าราชการตำรวจที่ถูกพิจารณาโทษ โดยเฉพาะระดับ ผกก.- สว. ออกจากพื้นที่ไปทำหน้าที่อื่น เช่น ตำรวจภูธรภาค 6 และ ตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่ง พล.ต.อ.วิสนุ ได้กำชับไม่ให้มีการย้ายผู้ที่ถูกย้าย กลับไปที่เดิมโดยเด็ดขาด

การพิจารณาโทษในครั้งนี้ ให้ทุกหน่วยถอดบทเรียน และต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกแล้ว การเบิกจ่ายทุกชนิด ต้องไม่บกพร่อง จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจระเบียบไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก และในวันนี้เงินเบี้ยเลี้ยงที่เบิกมาต้องถึงมือผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด โดยให้ ผบช.สตส. เข้าตรวจสอบตามกระบวนการตรวจสอบภายใน ให้เรียบร้อย โดยในลำดับต่อไป ทาง ตร.จะส่งรายงานผลการดำเนินการให้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และ ป.ป.ช. ทราบเป็นข้อมูล ต่อไป