เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

     ศาลศาลอาญาธนบุรี สั่งจำคุก ‘ไอซ์ หีบเหล็ก’ 11 ปี 4 เดือน และ ปรับ 5.8 แสนบาท คดีข่มขืน-อาวุธปืน โดยพิพากษา ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

     วันที่ 30 ธ.ค. 63 ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.586/2563 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 2เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอภิชัยหรือ ไอซ์ องค์วิศิษฐ์ ในความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

     โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2562 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ถึงวันที่ 24ธันวาคม 2562 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง ต่อเนื่องกัน จำเลยได้กระทำผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนดังกล่าวข่มขืนใจให้ผู้เสียหายไปที่บ้านแล้วกระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม

 

 

       เดิมจำเลยให้การต่อสู้คดี แต่ก่อนสืบพยาน จำเลยขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องทุกข้อหา

    คดีนี้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 508,000 บาท แต่ระหว่างพิจารณา จำเลยได้โอนเงินชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายจำนวน100,000บาท ตามที่ตกลงกัน จนผู้เสียหายพอใจ จึงถอนคำร้องไป

            ศาลสืบพยานโจทก์ปากผู้เสียหายและพนักงานสอบสวนฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว มีความเห็นว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 11ปี4เดือนเดือน โดยให้นับโทษต่อจากคดียาเสพติด หมายเลขดำ ย.199/2563 ซึ่งมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 จำคุก 10 ปี 5 เดือน ที่ศาลอาญาธนบุรีได้ตัดสินไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การอ่านคำพิพากษาในวันนี้เป็นการอ่านผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากศาลอาญาธนบุรี ไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรีซึ่งเป็นที่คุมขังจำเลยโดยไม่ได้เบิกตัวมาศาลอันเป็นหนึ่งในมาตรการของการป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อโควิดระลอกใหม่ในช่วงนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี สำหรับจำเลยนี้ยังคงมีคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาธนบุรี อีก 2 สำนวนซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และความผิดต่อชีวิต ความผิดเกี่ยวกับศพ โดยศาลอาญาธนบุรีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดี 2 สำนวนดังกล่าวในช่วงกลางเดือน ม.ค.2564 ด้วย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 ธ.ค. 62 โดยผู้เสียหายชื่อ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นเพื่อน กับน.ส.บี (นามสมมติ) คนที่เคยรับงานจากนายไอซ์ และเคยฝากไลน์ไว้ให้หากต้องการงานเอนเตอร์เทรน จากนั้น น.ส.เอ จึงไลน์มาหานายไอซ์ แล้วนัดเจอกันที่ตลาดบางแค เขตบางแค กทม. ก่อนที่เสี่ยไอซ์จะใช้อาวุธปืนมาจี้ เนื่องจากเกิดความชอบแล้วบังคับให้ขึ้นรถกลับไปยังบ้านพักเลขที่ 59 ซึ่งเป็นบ้านพักที่เกิดเหตุ

 

 

      จากนั้นใช้อาวุธปืนจี้ข่มขู่บังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เมื่อเสี่ยไอซ์เผลอ น.ส.เอ ได้ส่งข้อความไลน์บอกเพื่อนให้ช่วยแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือในทันที เนื่องจากเสี่ยไอซ์ มีอาการคลุ้มคลั่งเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิต จนกระทั่งเวลา 00.10 น. วันที่ 23 ม.ค. ตำรวจสายตรวจ สน.เพชรเกษม จึงเข้าไปช่วยเหลือ น.ส.เอ ออกมาได้อย่างปลอดภัย

      แต่ขณะนั้นยังไม่สามารถควบคุมตัว นายไอซ์ ได้ทันที เนื่องจากยังไม่มีหลักฐาน ก่อนพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง กฤตยาพร ทัดแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม และไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก่อนพบร่องรอยการถูกข่มขืนจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนพนักงานสอบสวนจะไปยื่นคำร้องขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งคดีความผิดต่อชีวิตที่มีกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาเป็นคดีฆ่าหญิงสาวฝังดิน ใส่หีบที่พบเจอศพบริเวณบ้านจำเลย