วันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียล มีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์คลิปเหตุการณ์ที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง กระโดดเกาะหน้ารถเก๋งสีดำ ในขณะที่ที่กำลังขับออกไปด้วยความเร็ว โดยที่หญิงสาวรายนี้ยังเกาะอยู่ที่หน้ารถพร้อมใช้ฝ่ามือทุบไปที่กระจกหน้ารถ และตะโกนโวยวายเสียงดัง ท่ามกลางความตื่นตกใจของชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก

จากนั้นหญิงดังกล่าว พยายามเดินไปเปิดประตูรถเก๋ง แต่ชายคนที่อยู่ในรถไม่ยอมเปิดประตู หญิงรายนี้จึงตัดสินใจกระโดดขึ้นไปนั่งบนฝากระโปรงรถ ส่วนชายคนขับตัดสินใจขับรถออกไปตามถนน ท่ามกลางความตื่นตกใจของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ โดยที่เด็กชายหญิง 2 คนที่นั่งซ้อนท้ายจยย.ยืนร้องไห้อยู่ริมถนน ชาวบ้านต้องรีบกันเข้าไปช่วยเหลือพร้อมโทรแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ

จากนั้นเวลาต่อมา มีญาติของเด็กทั้งสองคนเดินทางมารับตัวเด็กทั้ง 2 คนกลับบ้าน พร้อมให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการทะเลาะมีปากเสียงระหว่างสามีกับภรรยา โดยภรรยาได้ขี่จยย.มาตามหาสามี โดยมีลูกน้อยทั้งสองคนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ก่อนจะมาพบสามีกำลังขับรถยนต์เก๋งอยู่ในตลาดจึงพยายาม เรียกให้สามีจอดรถและเข้าไปพูดคุย แต่ไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้จงนำมาสู่เหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นภายในคลิปวีดีโอดังกล่าว

ด้านพ.ต.อ.อัฑฒาสิษฏฐ์ พุ่มเกตุแก้ว ผกก.สภ.ด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูแลเด็กชายหญิงทั้งสองคนที่ถูกทิ้งอยู่ข้างทาง พร้อมหาทางติดต่อครอบครัวของเด็ก กระทั่งได้รับข้อมูลจากญาติของหญิงคนที่กระโดด เกาะรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการทะเลาะมีปากเสียงกันระหว่างสามีและภรรยา

โดยภรรยาได้ขี่รถจยย.พร้อมลูกน้อยทั้งสองคนมาจากตัวเมืองกาญจนบุรีเพื่อออกตามหาสามี กระทั่งมาพบสามีกำลังขับรถอยู่ในตลาดอำเภอด่านมะขามเตี้ย และพยายามที่จะเข้าไปเรียกให้สามีจอดเพื่อพูดคุยตกลงปัญหากัน แต่สามีไม่ยอมเปิดประตูลงมาคุยด้วย ฝ่ายภรรยาจึงกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บริเวณหน้าฝากระโปรงรถ และขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ จนเกิดเป็นเหตุการณ์อย่างที่มีผู้ถ่ายคลิปเอาไว้ โดยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อจากญาติของหญิงสาวแล้ว

ทางหญิงสาวคนที่อยู่ในคลิปได้โทรศัพท์เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้ข้อมูลว่า สามารถ พูดคุยตกลงปัญหากับสามีได้เรียบร้อย และไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ ก่อนจะประสานให้ทางญาติๆมารับตัวเด็กทั้ง 2 คนกลับบ้าน พร้อมทั้งไม่ได้ติดใจที่จะแจ้งความดำเนินคดีใดๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทรงตัวเด็กทั้งสองคนให้กับญาติที่มารอรับ กลับไปโดยสวัสดิภาพ