กรณีหญิงสาววัย 23 ปี เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายศิวาหมอดูที่มีวิชาสามารถแก้กรรมจากการทำแท้งได้ ลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนจะถ่ายคลิปวีดีโอข่มขู่เพื่อเรียกเงินสองแสนบาท เบื้องต้นตำรวจเตรียมออกหมายจับมาดำเนินคดี ข้อหาใช้กำลังข่มขืน ขณะที่หมอดูเปิดเผยว่า เตรียมที่จะแจ้งความกลับหญิงสาวคนดังกล่าว ในวันที่ 10 ธ.ค. 2563 เวลา 13.00 น.ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 10 ธ.ค.2563 ที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีสื่อมวลชนหลายสำนัก มาเฝ้ารอหมอดูคนดังกล่าว หลังจากที่แจ้งกับสื่อว่าจะมาแจ้งความกลับ แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายในเวลา 13.00 น. หมอดูรายนี้กลับไม่ได้เดินทางมาแจ้งความตามที่มีการนัดหมายกันเอาไว้
เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม หมอดูได้ระบุว่า ปรึกษากับทนายความแล้วและตัดสินใจที่จะยังไม่เข้าแจ้งความกลับ โดยจะรอให้ตำรวจเรียกตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อน จากนั้น จึงจะเดินทางไปพบตำรวจและแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 13.50 น. หมอดูได้ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก โดยได้ชี้แจงเรื่องราวที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีว่า ตนไม่ได้ข่มขืนหญิงสาวผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าวหา แต่มีเพศสัมพันธ์กันจริง ซึ่งเป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้บังคับข่มขืน เป็นการมีสัมพันธ์ที่ตนจ่ายเงินให้กับหญิงสาว บางครั้งอาจมีการทำรุนแรง ซึ่งก็เป็นไปตามความชอบของทั้งสองคน ส่วนที่มีแช็ตข้อความต่อว่า ด่าทอ บังคับให้หญิงสาวมาหาตนนั้น
เป็นเพราะเกิดความโมโหที่เมื่อตนให้เงินหญิงสาวไปแล้วและหญิงสาวตกลงว่าจะมาหาตนอีก แต่หญิงสาวกลับผิดคำพูด ไม่ยอมมาหาตน ทำให้เกิดความโมโหและแช็ตไปต่อว่าดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ตนให้เงินหญิงสาวไปซื้อยาเพื่อขับลูกที่ตั้งท้องอายุครรภ์ 1เดือน ก็เป็นเพราะหญิงสาวมาร้องขอ ตนไม่ได้เป็นฝ่ายชักชวน โดยซากของทารกที่ออกมา ตนก็ได้นำไปประกอบพิธีให้ดวงวิญญาณเป็นกุมารทอง
ส่วนในประเด็นเรื่องที่เรียกเงินสองแสนนั้น ข้อเท็จจริงก็คือ ตนเรียกเพื่อเป็นเงินค่าไถ่บาปความผิดทำแท้ง ซึ่งเงินสองแสนตนก็ไม่ได้คิดจะเก็บไว้เอง แต่จะเอาไปฝากเข้าบัญชีของลูกหญิงสาวคนดังกล่าวเท่านั้น