เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แจงแล้ว…!! สาเหตุที่กะเพราแพงและได้น้อย แม่ครัวร้านบอกมันคือราคาปกติ แต่เวลาผัดแล้วหมึกกุ้งมันหด

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพอาหาร 2 จาน พร้อมข้อความ ระบุว่า ทริปความทรงจำ ข้าวกะเพราทะเลปลาหมึก 3 ชิ้น กุ้ง 1 ตัว 70 แพงไหมไม่รู้ ยำวุ้นเส้นทะเล 180 กุ้งหมึกเท่าที่เห็น ช่วงข้าวยากหมากแพง

ล่าสุด วันที่ 26 พ.ย. 63 นายศุภนพ มัดจันทร์ รองหัวหน้างานเทศกิจ เทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจ 5 นาย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เทศบาลเมืองหัวหิน ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านอาหาร ริมทะเลหาดทรายน้อย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากการสอบถามแม่ครัวของร้าน กล่าวว่า จากภาพที่ปรากฏในโลกออนไลน์ยอมรับว่า เป็นร้านอาหารที่ตนเป็นแม่ครัวอยู่ โดยปกติแล้ว ข้าวกะเพราทะเล ตนจะใส่กุ้งขาว 2 ตัว และหมึกขนาดกลาง ที่หั่นเป็นชิ้น ๆ อีก 1 ตัว แต่เมื่อผัดแล้วเนื้อหมึกจะหด ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ขายในราคา 60 บาท ถ้ามีไข่ดาวจะขายราคา 70 บาท ส่วนในภาพไม่มีไข่ดาว แต่ถูกเก็บเงินในราคา 70 บาทนั้น ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นคนเก็บเงิน แต่เป็นลูกสาวเจ้าของร้าน ส่วนยำวุ้นเส้นทะเล ราคา 180 บาท นั้นเป็นราคาปกติ

ขณะที่ชายพนักงานเสริมของร้าน ระบุว่า ถ้าเป็นจานลายดอกไม้ตามในภาพนั้น แสดงว่าเป็นวันที่มีลูกค้าจำนวนมาก ที่ตนจะต้องเอาจานออกมาเสริม เพราะตามปกติแล้ว จะใช้จานสีฟ้าไม่มีลาย แสดงว่าจะต้องเป็นวันหยุดยาวที่มีลูกค้าจำนวนมาก ขณะเกิดเหตุจานดังกล่าวจะมีไข่ดาวหรือไม่นั้น ตนจำไม่ได้จริงๆ

ด้านนายศุภนพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดรายงานให้ นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน และผู้บริหารได้ทราบข้อเท็จจริงตามลำดับ และอาจจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบร่วมด้วย

จากการตรวจสอบเมนูอาหารของร้านเบื้องต้นพบว่า ไม่ตรงตามเมนูอาหาร 1 รายการ คือ ข้าวกะเพราทะเล ระบุไว้ในเมนูว่า ราคา 60 บาท แต่เรียกเก็บลูกค้า 70 บาท คือเก็บเกินไป 10 บาท ตามภาพไม่มีไข่ดาว ขณะที่ยำวุ้นเส้นทะเลนั้น ราคาเรียกเก็บตรงตามเมนูคือ ราคา 180 บาท ซึ่งทั้งหมดจะเข้าข่ายว่า ขายอาหารแพงหรือไม่ จะต้องรอเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ข้อแนะนำสำหรับผู้บริโภค ไม่ว่าจะไปใช้บริการที่ร้านค้าใด ขอให้ตรวจสอบราคาที่เมนูอาหารให้ชัดเจนก่อนว่าราคาเท่าไหร่ และหากพบว่าไม่เหมาะสมหรือมีความผิดปกติ ควรสอบถามทันทีกับร้านค้า และเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม ควรแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามสอบถามข้อมูล และประสานการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด อย่างกรณีล่าสุดนี้ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายได้