เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
ก่อนหน้นี้เป็นกระแสในโลกออนลายหลังจากที่ สาว ทราย-อินทิรา เจริญปุระ ฟ้องชาวเน็ตที่ด่าเธอในโซเชียล ซึ่งก่อนนี้ สาว ทราย เธอก็ได้เผยถึงหนุ่มอีกรายหนึ่ง ที่เพิ่งโดนหมายศาลจากเธอ โดยหนุ่มรายดังกล่าวนั้น พอได้รับหมายศาล ก็ได้ไปโพสต์ขอคำปรึกษาทางด้านกฎหมายที่เพจกลุ่ม กปปส. กองทัพนกหวีด โดยระบุว่า ตัวเองอายุ 60 ปี โดนสาว ทราย-อินทิรา แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ซึ่งเป็นการให้ความเห็นที่สมาชิกกลุ่ม กปปส กองทัพนกหวีดได้ออกความเห็นกรณีที่สาว ทราย-อินทิรา แสดงความเห็นเกี่ยวกับการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งหนุ่มรายนี้ก็เลยเข้าไปด่าด้วยคำหยาบคาย ทั้งนี้หนุ่มรายนี้บอกด้วยว่า ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย และไม่มีเงินมากมายที่จะจ่ายค่าเสียหายถึง 7 แสนบาท ลงหนังสือพิมพ์ขอโทษอีก 7 วัน ทั้งชีวิตมีเงินไม่ถึง 50,000 บาท เงินในธนาคารมีแค่ 200-300 บาท โดยศาลนัดไต่สวนนัดแรกในวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 13.00 น. ที่ ศาลนนทบุรี สาว ทราย-อินทิราได้แคปภาพมาโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ระบุว่า ในวันที่อากาศดีวันหนึ่ง คุณก็อาจจะได้หมายศาลค่ะ พร้อมทั้งยกเคสรายที่ต้องจ่าย3แสนมาตอบว่า รายที่เสีย3แสนดังกล่าว เป็นแบบขอยอมความด้วย
แต่ล่าสุดสาวทราย ได้เขียนข้อความถึง หนุ่ม แอมมี่ เดอะบอททอมบูลส์ ที่ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองชัดเจน พร้อมเล่าถึงปัญหาที่เธอพบเจอตอนนี้ โดยสาวทรายได้เล่ายาวว่า “เพลงแรนดอมมาถึงเพลงของบอททอมบลูส์แล้วเราก็นั่งร้องไห้เพราะได้ยินเสียงแอมมี่ น้องแม่งสู้มาก เราไม่รู้ว่าก่อนๆนี้ภาพลักษณ์เค้าเป็นยังไง หรือดูแย่เรื่องความรับผิดชอบครอบครัวใดๆก็ตาม แต่วันที่ไปรับไผ่หน้าคุก แอมมี่พาแม่ไปด้วย แล้วแม่เค้าเข้ามาทักเรา บอกฝากน้องด้วยนะ ฝากมี่ด้วย เราคือแบบ เหมือนไม่ได้เขียนอะไรลงเฟซยาวๆมาพักใหญ่ หลังจากที่ต้องรีบๆทำนั่นทำนี่ติดๆกันมาร่วมเดือนราเป็นคนทุกข์ เป็นคนประสาทเสียไปทั้งเนื้อทั้งตัว ช่วงที่ผ่านมาคือมันมีความยินดีแหละ ที่ได้เห็นเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่าง ผู้คนร่วมกันจุดไฟในสายลม ซึ่งมันยาก แต่คนก็ต่อไฟกันมากขึ้น แต่ความประสาทแดกของเราก็ยังมีเสมอ เที่ยวห่วงคนนั้นคนนี้ กลัวว่าสายลมที่เราเผชิญอยู่มันจะรุนแรงเกินกว่าจะยื้อเปลวไฟ ดูรูปบางรูปหรือฟังเพลงบางเพลงก็ไม่สามารถรู้สึกได้เหมือนเดิม กับบางคนบางกลุ่มก็คือเลิกติดตามหรือหมดความสนใจไปดื้อๆ
บ่อยๆที่นั่งคิดว่าเราโรแมนติกไปหรือเปล่า ฝันไปหรือเปล่ากับผู้คน อ่อนไหวมากเกินไปหรือเปล่ากับชีวิตของใครต่อใคร แต่ก็จะโดนความจริงกระชากอยู่เรื่อยๆว่านอกจากความฝันความหวังแล้ว พื้นที่ตรงนี้มีคนมาหาประโยชน์เยอะมาก ทั้งเพื่อภาพลักษณ์และเพื่อเงิน มีคนวุ่นวายกับเราเยอะขึ้นมากจนน่ารำคาญ แล้วก็คงมีคนคิดบ้างล่ะมั้ง ว่าเราก็ไม่ต่างกัน อาจจะคิดว่าเราได้ภาพลักษณ์และได้เงิน ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเป็นเงินทองชื่อเสียง นอกจากจะเสียไปบ้าๆบอๆ ได้ฟ้องคนเพิ่มขึ้นซึ่งก็ไม่ได้น่ายินดีอะไร และสิ่งที่น่าจะได้มาก็คงจะเป็นหมายจับ ซึ่งถ้าโดนก็คงไม่แปลกใจ.ผู้พิพากษายิงตัวตายไปแล้ว คนขับแท็กซี่ผูกคอตาย ส.ส.กรีดแขนหลั่งเลือดกลางสภา น้องๆถูกจับเข้าคุก เด็กนักเรียนโดนตบหน้าริมทางรถไฟ ผู้พิการโดนออกหมายจับเพราะไปเรียกร้องสิทธิเพื่อคนพิการ หรือจริงๆแล้วแค่การมีชีวิตอยู่ ก็เป็นการยืนหยัดอย่างหนึ่งว่าเราจะไม่ยอม การมีชีวิตคือคำตอบหนึ่งของการขัดขืน เพื่อที่จะเห็นผู้คนไม่เหมือนเดิม ฟังเพลงไม่เหมือนเดิม และอ่านหนังสือเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป”