เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีจากกรณีรถบัสเดินทางจากจ.สมุทรปราการ ไปทอดกฐินที่จ.ฉะเชิงเทรา แต่ถูกรถไฟขบวนบรรทุกสินค้าพุ่งชนขณะรถบัสกำลังข้ามรางรถไฟบริเวณสถานีแขวงกลั่น อำเภอเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 รายและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมากนั้น

และล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุรถไฟชนรถบัสคณะทอดกฐิน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.05 น. ทางรถบัสคันเกิดเหตุ วิ่งมาบนถนนแล้วไม่ได้หยุดดูขณะข้ามทางรถไฟ ทำให้รถไฟซึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ พุ่งเข้าชน เบื้องต้นทราบว่า คนขับรถไฟพยายามอย่างเต็มที่ในการยับยั้งไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ มีการเปิดหวูดสัญญาณและเปิดไฟเตือน แต่คนขับรถบัสอาจจะไม่ได้ยินหรือไม่เห็น ทำให้ขับข้ามเข้ามาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

สำหรับจุดตัดข้ามทางรถไฟดังกล่าว ไม่มีไม้กั้น เนื่องจากสถานีนี้ไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นจุดตัดที่ต้องมีไม้กั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูข้อเท็จจริงประกอบกันว่าจุดดังกล่าวมีสถานะเป็นอย่างไรกันแน่ ควรต้องมีไม้กั้นหรือไม่ รวมถึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของใครที่จะต้องติดตั้งไม้กั้น เพราะเป็นเส้นทางรถไฟรางคู่ แต่จากการสังเกตเบื้องต้นพบว่า ข้างทางรถไฟมีรั้วกั้นและสัญญาณเตือน แต่อาจจะด้วยความจำเป็นหรือวิถีชีวิตของชาวบ้าน ทำให้มีถนนตัดขึ้นมาตรงจุดดังกล่าว

ส่วนสัญญาณไฟจะใช้ได้หรือไม่ได้นั้น จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเป็นการบอกเล่าจากหลายฝ่าย แต่อย่างน้อยที่เห็นทางกายภาพ พบว่า มีสัญญาณเตือน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ต้องระวังพอสมควร ปัญหาทางตัดเป็นปัญหาที่ทางภาครัฐต้องออกมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง เพราะความสูญเสียลักษณะนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น แม้อาจจะมีบางส่วนมองว่าไม่อันตราย เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ แต่สำหรับคนนอกพื้นที่ ซึ่งไม่ชินทาง อาจไม่ทันระมัดระวัง

สถานะของทางที่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน พบว่า มีสัญญาณเตือนอยู่แล้ว ซึ่งคนข้ามก็ต้องระมัดระวัง กรณีที่ไม่มีไม้กั้น ปกติแล้วรถไฟจะต้องส่งเสียงหวูดเตือน แต่ในส่วนของทางก็มีสถานะแตกต่างกัน เช่นเป็นทางที่ชาวบ้านทำเอง คนขับก็ไม่ทราบ รถไฟก็ไม่ทราบ จึงไม่ทันระวัง ลักษณะนี้ต้องอาศัยความระมัดระวังทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้น ถ้าทางที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็จะเป็นทางที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง จากนี้ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ