ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.พีรพงศ์ วงษ์สมาน ดูแลงานยาเสพติด พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ.
ร่วมจับกุม นายคัตสึฮิซะ โคมิยะ ชาวญี่ปุ่น อายุ 41 ปี นายประสิทธิ์ ศีลภัย อายุ 40 ปี นายชุมแพ เกาะแก้ว อายุ 30 ปี นายมิดาว คำสม อายุ 47 ปี และ นายพิเชฏฐ์ ไกรกมล อายุ 18 ปี พร้อมของกลางดอกกัญชาตากแห้ง รวมหีบห่อ 2 กิโลกรัม ต้นกัญชาแบบสด 128 ต้น ต้นอ่อนกัญชา 279 ต้น ยางกัญชา หรือแวกซ์ 4 กระปุก น้ําหนักรวมขวด 200 กรัม ยางกัญชา หรือแวกซ์ ชนิดแผ่น 27 แผ่น เมล็ดพันธุ์กัญชา 100 ชิ้น เครื่องสกัดน้ํามันกัญชา จํานวน 3 เครื่อง โดยจับกุมภายในบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านวังตาล หมู่ 3 ต.สันผักหวาน อ.หางดง เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ได้รับร้องเรียนว่ามีกลุ่มชาวญี่ปุ่น ลักลอบปลูกและจําหน่ายกัญชาคุณภาพสูงที่เพาะปลูกแบบออแกนิก และผลิตภัณฑ์ที่สกัดได้จากกัญชา ทั้งยังชักชวนชาวต่างชาติ และร่วมกันกับคนไทย ลักลอบปลูกและสกัดผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกัญชา โดยอ้างว่าได้รับการอนุญาตให้ปลูกและผลิตถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นจะจําหน่ายผ่านแอปพลิเคชันสังคมออนไลน์ ส่งออกให้กับกลุ่มชาวต่างชาติเป็นหลัก หลังจากทราบเรื่องได้ขอหมายค้นก่อนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว และเจอของกลาง
นายคัตสึฮิซะ สารภาพว่า เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักศึกษาปริญญาโท คณะเกษตรทำวิจัยเกี่ยวกับการปลูกข้าว มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ โดยเข้ามาอยู่ประเทศไทยได้ประมาณ 3-4 ปี และสนใจการปลูกกัญชาจึงซื้อเมล็ดพันธุ์กัญชาจากยุโรป เพื่อที่จะนำมาปลูกโดยต้องปลูกภายในห้องที่มีอุณภูมิค่อนข้างเย็น ทำได้เพียงไม่กี่เดือน เพื่อนำดอกกัญชามาสกัดน้ำมันสารซีบีดี
ตนตั้งใจจะปลูกให้ได้ 100 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี จะส่งขายไปยังประเทศสหรัฐอเมริกากิโลกรัมละ 400,000 บาท โดยขายผ่านทวิตเตอร์ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
