เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ที่ สน.นางเลิ้ง จากกรณีที่ นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบอำนาจให้ทนายความดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่โพสต์และแชร์ ในโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูป ฯลฯ รวมถึงสื่อ

หรือ พื้นที่สาธารณะอื่นๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย กล่าวหา คุกคาม และหมิ่นประมาทกล่าวหาว่าบุตรสาวของนายกทั้ง 2 คน ได้เปลี่ยนชื่อและนามสกุล เพื่อหลบหนีคดีไปอยู่ในคฤหาสน์หรูประเทศอังกฤษ และช่วยบิดาฟอกเงินซึ่งเป็นการทุจริต โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีมูลความจริง

ในช่วงที่มีการใช้แฮชแท็กในทวิตเตอร์ “ตามหาลูกประยุทธ์” เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติยศ วงศ์ตระกูลและเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง โดยได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับโพสต์ทวิตเตอร์และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมกว่า 100 บัญชี เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง ผู้ถูกออกหมายเรียกจำนวน 7 คน ได้เข้าพบพ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 พร้อมให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หลังได้โพสต์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีลูกสาวของนายกรัฐมนตรี

เบื้องต้นผู้ถูกออกหมายเรียกทั้งหมดพร้อมทนายความขึ้นไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บนชั้นที่ 2 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อความที่โพสต์ลงในโลกโซเชียล รวมถึงแหล่งที่มาของข้อมูล เพื่อหาแหล่งที่มาและข้อเท็จจริงในข้อมูลดังกล่าว และประเด็นต่างๆ ที่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ซึ่งเจ้าตัวมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือให้การอย่างไรก็ได้

ต่อมาเวลา 13.00 น. น.ส.อมรภัค ศรีบุญชัย อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตอนได้รับหมายเรียกมาก็ตกใจ จึงมาให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าแชร์ข้อความหรือโพสต์ใดเกี่ยวกับ #ตามหาลูกประยุทธ์ หรือไม่ เพราะเวลาผ่านมานานแล้ว จำได้เพียงเคยเห็นผ่านๆ เพราะวันหนึ่งตนมีธุระต้องทำเยอะ โดยในการเข้าพบครั้งนี้ ทางตำรวจก็ไม่ได้ให้ดูว่าตนแชร์หรือโพสต์สิ่งใดที่ผิดกฎหมาย

นายศุภกร (ขอสงวนนามสกุล)กล่าวว่า ตนถูกหมายเรียกในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์เกี่ยวกับ #ตามหาลูกประยุทธ์ คาดว่ามีคนมาคอมเมนต์หรือแชร์ต่อกันเยอะ ทั้งนี้ ตนก็ยอมรับผิด ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ต้องขอโทษที่ไปกล่าวหาเจ้าทุกข์จนเกิดความเสียหาย ตนไม่มีเจตนาจริงๆ และไม่อยากให้คนอื่นๆ ไปแชร์ต่ออีก เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม ซึ่งทางตำรวจนัดพบอีกครั้งวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพื่อส่งตัวพร้อมสำนวนคดีให้อัยการ

น.ส.สุภาภรณ์ โพธิ์ศรี กล่าวว่า พวกเราถูกหมายเรียกรับทราบในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับข้อหาหมิ่นประมาท แต่เมื่อมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาได้ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทเท่านั้น ในกรณีนี้ตนแสดงความคิดเห็นในโพสต์เกี่ยวกับการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปยังสองลูกสาวตามที่มีกระแสข่าวจริงหรือไม่

รวมถึงบุคคลทั้งสองอยู่ที่ไหน เหตุใดไม่ยอมเปิดเผยตัวตน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทเป็นเพียงการตั้งคำถามเท่านั้น เข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลสาธารณะ เหตุใดต้องลดตัวลงมาคุกคามประชาชนตัวเล็กๆ แล้วพวกตนก็ไม่ได้ทั้งคำตอบและยังถูกหมายเรียกอีก ทั้งนี้พวกตนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนี้ ทนายความจะทำหนังสือชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป

พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 13 คน วันนี้มาเข้าพบ 8 คน ให้การปฏิเสธ 6 คน มีผู้ให้การรับสารภาพเพียงรายเดียว ส่วนอีกรายตำรวจกันไว้เป็นพยาน โดยเมื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเสร็จแล้วได้ปล่อยตัวกลับไปเนื่องจากเป็นการเข้าพบตามหมายเรียก