วันที่ 11 ก.ย. อูตุซันมาเลเซีย รายงานเหตุสะเทือนใจที่เป็นอุทาหรณ์ใน ประเทศมาเลเซีย เมื่อทารกวัยเพียง 7 วัน ถูกสุนัขที่ครอบครัวเลี้ยงไว้กัดแขนเป็นแผลฉกรรจ์จนต้องตัดมือทิ้งข้างหนึ่ง และกลายเป็นผู้พิการตั้งแต่อายุยังน้อย
* พ.ต.ท.โมห์ด นอร์ ยาห์ซิด ผู้บังคับการแผนกสอบสวนอาชญากรรมเมืองมะละกา เปิดเผยว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 10.00 น. ของวันอังคารที่ 8 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ป้าของเด็กหญิงซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันในย่านบาจาง พาหลานสาวที่มีภาวะตัวเหลืองออกมารับแสงแดด โดยเด็กหญิงนอนอยู่ในเปลซึ่งวางติดกับรั้วหน้าบ้าน*
จากนั้นผู้เป็นป้าเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำหลานสาว แต่จู่ๆ ได้ยินเสียงเด็กหญิงร้องไห้ดังลั่นเลยรีบวิ่งออกมาดู และเห็นสุนัขกำลังกัดแขนหลานสาว ระหว่างนั้นป้าของเด็กหญิงตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันพ่อของเด็กหญิงซึ่งกำลังดูแลภรรยาที่พักฟื้นหลังคลอดบนชั้นสองของบ้าน ได้ยินเสียงลูกสาวร้องและเสียงเอะอะโวยวายก็รีบลงมาดู และต้องช็อกหนักเพราะเด็กหญิงมีบาดแผลฉกรรจ์และเลือดไหลนองเต็มพื้น ก่อนตั้งสติเร่งพาลูกสาวไปโรงพยาบาลในชุมชน
แต่เพราะบาดแผลรุนแรงมากทำให้ต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเมลากาซึ่งส่งต่อให้โรงพยาบาลกัวลาลัมเปอร์ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ครอบคลุมต่อการรักษา อย่างไรก็ตาม แพทย์จำเป็นต้องตัดมือข้างขวาทิ้ง ส่วนอาการของเด็กหญิงยังสาหัสและแพทย์ต้องดูแลใกล้ชิด
พ.ต.ท.ยาห์ซิดระบุอีกว่าสุนัขที่กัดเด็กหญิงเป็นพันธุ์พล็อตต์ฮาวนด์ สายพันธุ์สุนัขซึ่งในอดีตเพาะเลี้ยงไว้สำหรับล่าหมี และว่ากำลังสอบสวนกรณีดังกล่าวภายใต้กฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งผู้ปกครองของเด็กหญิงอาจถูกตั้งข้อหาทำร้าย ละทิ้ง หรือปล่อยปะละเลยจนเป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย รวมถึงส่งผลกระทบต่อจิตใจ