เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผบ.ตร.ชี้แจงตำรวจทำตามหน้าที่ มีมาตรา 157 ควบคุม ยืนยันไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ขอวางตัวเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง

ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 สภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นการพิจารณางบประมาณของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ระหว่างชี้แจง วรภพ วิริยะโรจน์ และ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ตั้งคำถามและมีข้อสังเกตในประเด็นที่ตำรวจมีการจับกุม ข่มขู่ คุกคามนักเรียน นักศึกษาและประชาชน และถามถึงประเด็นการตัดสัญญาณโทรศัพท์ในที่ชุมนุม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ชี้แจงว่า ได้กำชับกับทางตำรวจว่าอย่าไปสร้างเงื่อนไข วางตัวเป็นกลางเลือกข้างไม่ได้ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปแล้ว มีกล้องในพื้นที่ชุมนุมเต็มไปหมด ทุกการตัดสินใจตำรวจต้องระมัดระวัง ซึ่งได้กำชับรอง ผบ.ตร.ที่ดูแลเรื่องข้อกฎหมาย การควบคุมดูแลปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ตำรวจไม่ได้อยากทำ แต่มีมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ควบคุม ไม่ทำก็ไม่ได้

“ผมทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ทำอะไรก็เจอ ม. 157 ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ผมเอียงข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ และไม่มีใครมาสั่งได้ เมื่อกฎหมายมันนับ 1 แล้ว ก็ต้องดำเนินต่อไป ท่านไม่เป็นผมท่านไม่รู้หรอก ม.157 มันค้ำคออยู่ ข้อหาต่างๆผมให้ ท่านพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ดูอย่างละเอียด ทางที่ดีชุมนุมอยู่ในกรอบกฎหมายดีกว่า ท่านจะชุมนุมที่ทุ่งกุลาร้องไห้ไปเลย แต่ท่านเลือกแต่จุดยุทธศาสตร์เราก็ต้องทำตามกฎหมาย”

สำหรับข้อสังเกตเรื่องการตัดสัญญาณในที่ชุมนุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การมีคนอยู่รวมกันกว่า 12,000 กว่า ต้องมีติดต่อกันไม่ได้บ้าง ตำรวจเองก็ใช้ไม่ได้ด้วย และไม่มีการเอาอุปกรณ์ใดๆ มารบกวนสัญญาณ ซึ่งก่อนที่จะมีคนมาชุมนุม ตำรวจได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเป็นดินเทา โดยดินเทาเป็นสารตั้งต้นจุดระเบิดได้ ซึ่งตามจุดยุทธวิธี เมื่อเราพบจุดบอกเหตุ ต้องเตรียมตัว โดยเจตนาของตำรวจคือดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน อย่าไปสันนิษฐานในทางไม่ดี ตนไม่ใช่เป็นผู้ขัดแย้ง แม้แต่เหตุการณ์ที่มี มีนักศึกษามากระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ ตนก็บอกลูกน้องว่าให้อดทน