ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธนภัทร เพียรสะอาด รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจาก นางเอ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี แม่ของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ว่าลูกสาวถูกครูซี ที่สอนหนังสือระดับชั้นประถม ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ในอาคารพาณิชย์ ซึ่งเปิดสอนพิเศษให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถม ใกล้กับสถานศึกษาที่ตัวเองสอนอยู่
โดย นางเอ ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้สังเกตเห็นอาการของลูกสาว ที่นั่งเหม่อลอยและเครียดบ่อยครั้ง จึงได้คาดคั้นหาสาเหตุ จนลูกสาวยอมรับว่า ถูกครูซีข่มขืนที่อาคารดังกล่าว โดยครูซี ได้ล่อลวงไปแล้วข่มขืนไป 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 ก.ค. และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 ก.ค.
พ.ต.อ.ธนพล กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินคดีเอาผิดกับครูคนดังกล่าวแล้ว โดยจะเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำว่าเป็นการล่อลวงเด็กสาวไปกระทำชำเราตามที่แม่ของเด็กให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนหรือไม่
ด้าน พล.ท.สุรพล ตาปนนนท์ ที่ปรึกษากองทัพบก ผู้ก่อตั้งชมรมอาสาพัฒนาแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวจะมีการล้มคดีไม่ได้ เนื่องจากทางพ่อแม่ของเด็กผู้เสียหาย ได้ร้องเรียนมาที่ตน เรื่องที่เกิดขึ้น ชาวแม่ฮ่องสอน จะต้องร่วมมือกันในการกำจัดคนไม่ดี ไม่ให้มีที่อยู่ในจังหวัด และรับผิดชอบต่อการกระทำที่ตัวเองก่อขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งพยายามวิ่งเต้นช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุพบว่า ได้มีผู้บริหารสถานศึกษาแห่งหนึ่งพยายามวิ่งเต้น เพื่อให้ครูคนดังกล่าวพ้นผิด เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อสถานศึกษาของตน ขณะที่คนในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และส่งบุตรหลานไปเรียนพิเศษกับครูคนนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้พบว่ายังมีการเปิดสอนพิเศษตามปกติ