เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ชู 3 นิ้วตะโกนไล่รัฐบาล พร้อมยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล นัด 10 สิงหาฯ หน้ารัฐสภาอุ่นเครื่องก่อนชุมนุมใหญ่ 16 สิงหาฯ

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 8 สิงหาคม 2563 ที่สกายวอล์ก หน้าศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ปทุมวัน ได้จัดกิจกรรมชุมนุมแฟลชม็อบ“#ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส” ภายหลังการนัดหมายผ่านโซเซียลของคณะประชาชนปลดแอก สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และเครือข่ายเยาวชนปลดแอก จากกรณีมีการจับกุมแกนนำคือ นายอานนท์ นำภา ทนายความ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก เมื่อวานนี้ ก่อนที่ล่าสุดจะได้รับการประกันตัวออกมาแล้วเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีดำเป็นสัญลักษณ์ ทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยคน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมกับร้องขอผู้ชุมนุมไม่ให้กีกขวางการจราจรเนื่องจากไม่มีการแจ้งขออนุญาตชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรค ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งพยายามชี้แจงว่าตำรวจมาเพื่อดูแลความปลอดภัย และกิจกรรมสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย แต่ก็ถูกผู้ชุมนุมตะโกนขับไล่ออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ต่อมาแกนนำได้นำภาพกระทิงแดงสีแดงขนาดใหญ่มาแสดงเชิงสัญลักษณ์ พร้อมชู  3  นิ้วร้องตะโกนไล่รัฐบาล “เราจะไม่หยุดจนกว่าอำนาจมืดจะหมดไป ” พร้อมยืนยันเรียกร้อง 3 ข้อ คือ หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่  และยุบสภา ภายใต้เงื่อนไข 2 จุดยืน คือ ไม่เอารัฐประหาร และไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ

นอกจากนี้ แกนนำยังนัดชุมุมที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 10 สิงหาคม เวลา 10.00 น.และในช่วงเย็นจะมีการชุมนุมที่ม.ธรรมศาสตร์ รังสิตอีกด้วยและนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 16 สิงหาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะเดียวกันในโลกโซเซียลมีการแชร์ภาพและบรรยากาศการชุมนุมแฟลชม็อบครั้งนี้อย่างกว้างขวาง โดย #ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส พุ่งทะยานขึ้นอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ด้วย

ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมที่หน้าสน.บางเขน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี 2 นักกิจกรรมปลดแอก ว่า ตนคิดว่า สถานการณ์นับจากนี้จะรุนแรงจนบานปลายหรือไม่ อยู่ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไรบ้าง ซึ่งในที่ประชุมกมธ.ได้เน้นย้ำทุกครั้ง

“ล่าสุดได้เชิญทางตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาพูดคุยว่า การคุกคามใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะติดตาม โทรหากดดันกับผู้ปกครอง ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ รวมไปถึงการดำเนินคดีด้วย หากข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ไม่มีความชัดเจน ผมคิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่พยายามไปยัดข้อกล่าวหาให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม”นายภราดร กล่าว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดกระบวนการดำเนินคดีด้วยการออกหมายจับ 2 นักกิจกรรมทันที โดยไม่มีหมายเรียก เพราะตั้งใจสกัดม็อบหลังมีการประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้นั้น ในกมธ.มีพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นกมธ.อยู่ด้วย ดังนั้น ในการประชุมครั้งต่อไปคงต้องมีการสอบถามกัน อย่างไรก็ตาม กมธ.จะไปร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมที่จะมีขึ้นในหลายที่ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งแฟลชม็อบที่สกาลวอล์กแยกปทุมวัน ในวันนี้ (8ส.ค.) ด้วย