วันที่ 30 ก.ค. เวลา 10.30น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ในวันที่ 5 ส.ค.จะมีการประชุมร่วม 3 กมธ.คือกมธ.กฎหมายฯ กมธ.ศาลฯ และกมธ.ตำรวจ เพื่อพิจารณาคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง
โดยมีผู้ชี้แจงทั้งตำรวจ และอัยการ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง และ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร.ด้านกฎหมายและสอบสวน ซึ่งเป็นผู้ลงนามไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ รวมทั้งพยานใหม่ 2 ปาก นอกจากนี้ ได้เชิญ กมธ.กฎหมายฯ สนช. และเจ้าหน้าที่ชวเลข ที่บันทึกการประชุม กมธ.มาชี้แจงด้วย
ที่สำคัญ กมธ.ได้เชิญ นายวรยุทธ และทนายของนายวรยุทธด้วย หาก นายวรยุทธ์และทนาย ไม่ยอมมาชี้แจงต่อกมธ.2 ครั้ง ก็จะออกคำสั่งเรียกตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก แต่ถ้าไม่มาอีก ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ทั้งนี้ตนอยากให้นายวรยุทธ เข้ามาชี้แจงกับ กมธ.เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ประชาชนจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนการรื้อคดีใหม่นั้น นายสิระ กล่าวว่า ต้องดูว่าพยาน 2 ปากที่เพิ่งปรากฎใหม่นั้น ให้การเท็จหรือไม่ หากให้การเท็จก็ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่สามารถยื่นฟ้องศาลใหม่ได้ และหากการคำนวณความเร็วของรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเท็จก็ถือว่าเป็นพยานใหม่เช่นกัน เพราะเป็นข้อมูลเท็จ ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า นักวิชาการวิเคราะห์ใช้สูตรคำนวณความเร็วแบบมีอคติ ตนเจอมาหลายครั้งแล้ว นักวิชาการส่วนใหญ่มีอคติ จึงต้องพิสูจน์กันให้ได้ โดยกมธ.จะลุยเอง
นายสิระ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจยืนยันต่อที่ประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าประเด็นพบสารแปลกปลอมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในร่างกายของนายวรยุทธนั้น มีอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ไม่ได้ตอบชัดเจนว่าเหตุใดจึงไม่ตั้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น แต่เบื้องต้นจากการพูดคุยทราบว่า ตำรวจกำลังจะตั้งข้อหานี้ขึ้นมาใหม่ ในเฉพาะส่วนของยาเสพติด เพราะมีหลักฐานจากการตรวจสอบของโรงพยาบาลรามาธิบดีชัดเจน