เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อสำนวนคดีชี้ไปในทางที่ว่า “บอส อยู่วิทยา”  ไม่เมาเพราะไม่ได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์หลังเกิดเหตุทันที หนำซ้ำยังอ้างประจักษ์พยานว่า“ขับรถไม่เร็ว” ทำให้ไม่มีช่องเอาผิดในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่งผลให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง และตำรวจก็ไม่ทำความเห็นแย้ง คดีก็สิ้นสุดในส่วนของตำรวจกับอัยการ

จากการตรวจสอบสำนวน“สั่งไม่ฟ้อง” ของอัยการ พบว่ามีการอ้างพยานทั้งหมด 6 ปาก เป็น “ประจักษ์พยาน” (ผู้เห็นเหตุการณ์) 2 ปาก และที่เหลืออีก 4 ปาก เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ทำหน้าที่ตรวจสอบความเร็วของรถ

ที่น่าแปลกก็คือ ความเร็วเดิมที่มีการตรวจสอบเอาไว้ในสำนวนแรกที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว ระบุว่านายบอสขับรถมาด้วยความเร็วสูงถึง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สำนวนหลังที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และสั่งสอบเพิ่มพยาน 6 ปาก ระบุความเร็วรถเฟอร์รารี่ (Ferrari) ที่ “บอส อยู่วิทยา” ขับขี่มาเพียง 76-78 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ พยาน 6 ปาก ประกอบด้วย

  • พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ (สบ 2) กลุ่มงานตรวจทางเคมีฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐาน รายนี้เคยให้การยืนยันว่า นายบอสขับรถเร็วมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนกลับคำให้การในภายหลัง และคำนวณใหม่เหลือไม่ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียม อดีตสารวัตรงานช่างเครื่องและตรวจพิสูจน์ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร
    โดยในส่วนของพันตำรวจโทสมยศ แอบเนียม ได้มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งติดต่อไปขอสัมภาษณ์ แต่ได้รับการปฏิเสธกลับมา
  • พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิชัย ผู้เชี่ยวชาญของศาลในทางตรวจพิสูจน์เครื่องและอุปกรณ์ส่วนควบของยานยนต์ที่เกี่ยวเนื่องกับอุบัติเหตุ กองบังคับการตำรวจจราจร เปรียบเทียบความเสียหายรถจากคดีเฉี่ยวชนอื่น ยืนยันไม่ใช่ความเร็ว 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน / มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ขณะให้การอ้างยศ พล.อ.ต. เป็นประจักษ์พยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์
  • นายจารุชาติ มาดทอง เป็นประจักษ์พยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์