เว็บไซต์นิวสเตรทส์ไทม์ส รายงานข้อมูลอ้างอิงจากสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า ชาวบ้านอินโดนีเซียต่างแตกตื่นตกใจ หลังพบเห็น ซากวาฬขนาดมหึมา ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยตื้นริมฝั่ง โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่ามันตายเพราะอะไร แต่คาดว่าน่าจะตายมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาขาดใจตายบนหาด
จุดที่พบซากวาฬดังกล่าว คือชายหาดนุนฮิลา ริมชายฝั่งทะเลนอกเมืองกูปัง เมืองใหญ่ที่สุดบนเกาะติมอร์ จังหวัดนูซาเติงการาตะวันตก ทางตอนกลางของอินโดนีเซีย ชาวบ้านในพื้นที่สังเกตเห็นมันโผล่มาอยู่ริมทะเลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม หลังจากนั้นข่าวก็แพร่กระจายกันไปปากต่อปาก ผู้คนพากันแห่มาดูเป็นจำนวนมาก ลิเดีย เตซา เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอนุรักษ์ในพื้นที่ เปิดเผยว่า จากการสันนิษฐานเบื้องต้น พบว่าวาฬดังกล่าวคือ วาฬสีน้ำเงิน (blue whale) สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสามารถเติบโตจนมีความยาวได้ถึง 32 เมตร
#SobatHijau, Paus Biru yang Mati dan Terdampar di Perairan Teluk Kupang sudah Ditangani
Balai Besar KSDA NTT menerima informasi dari masyarakat terdapat keberadaan paus yang terdampar di pantai Nun Hila, termasuk kawasan Taman Wisata Alam Laut (TWAL) Teluk Kupang, Provinsi NTT. pic.twitter.com/LGSszvXJWJ
— Kementerian LHK (@KementerianLHK) July 23, 2020
ทางด้าน กระทรวงการสิ่งแวดล้อมและป่าไม้อินโดนีเซีย รายงานว่า หลังจากได้รับแจ้งว่าพบซากวาฬสีน้ำเงินเกยตื้น ทางหน่วยงานได้ประสานงานกับ อุทยานแห่งชาติและการท่องเที่ยวอ่าวกูปัง พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ส่งทีมเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่ได้กันประชาชนออกไปจากซากวาฬ และเคลียร์พื้นที่ เนื่องจากมีคนมารวมกันค่อนข้างแออัด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และอาจขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอาจเข้ามาทำให้ซากวาฬเสียหายได้ ทีมเจ้าหน้าที่พบว่า ซากวาฬสีน้ำเงินตัวนี้เป็นเพศเมีย ความยาว 29 เมตร ลำตัวกว้าง 17 เมตร อายุประมาณ 70 – 80 ปี สภาพซากอยู่ในระยะเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นโชยตลบอบอวล แสดงให้เห็นว่าตายมานานระยะหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่ามันตายด้วยสาเหตุธรรมชาติ นั่นก็คือ แก่ตายไปเอง ไม่ได้ถูกสัตว์อื่นฆ่า หรือถูกมนุษย์ล่าแต่อย่างใด โดยหลังจากตรวจสอบและเก็บข้อมูลเสร็จสิ้น ก็ได้ทำการฝังกลบซากวาฬตัวนี้เรียบร้อยแล้ว