เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งมีหญิงสาวถูกลักพาตัวขึ้นรถตู้โฟล์ค สีขาว โดยมีชายหนุ่ม ซึ่งเป็นแฟนของหญิงคนดังกล่าวกระโดดเกาะหน้ารถตู้ไปด้วย เหตุเกิดบริเวณด้านหลังสวนลุมพินี ก่อนที่รถตู้คันดังกล่าวจะเสียหลักชนป้ายบอกทางเชิงสะพานขึ้นสะพานไทย-เบลเยี่ยม ถนนพระราม 4 ขาออก ทำให้ชายดังกล่าวร่างกระเด็นตกลงมากระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนฝ่ายหญิงได้กระโดดรถตู้หนี ช่วงแยกไฟแดงวัดช่องลม ขณะที่รถตู้คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 21 ก.ค. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุธีร์ เสน่ห์ลักษณา ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ และฝ่ายสืบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง เบื้องต้นทราบว่า หลังเกิดเหตุ ได้มีพลเมืองดีมาพบ น.ส.ณัฐ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี หญิงสาวที่ถูกฉุด บริเวณริมถนนพระราม 3 หน้าวัดช่องลม สภาพเสื้อผ้าขาด ท่อนล่างเปลือยเปล่า จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจให้พาตัวมา สน.ทุ่งมหาเมฆ ขณะที่ตำรวจสอบสวนได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ณัฐ กำลังทำงานอยู่บริเวณหลังสวนลุมพินี ติดกับถนนราชดำริ จากนั้นก็มีคนร้ายเข้ามาติดต่อพูดคุย ก่อนพาขึ้นรถตู้แล้วถูกขู่ทำร้ายทันที

ต่อมา นายสม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี มาเห็นแฟนกำลังถูกทำร้าย ทำให้คนร้ายขับรถพาหลบหนี นายสม จึงตัดสินใจกระโดดเกาะหน้ารถตู้ เมื่อมาถึงบริเวณทางขึ้นสะพานไทยเบลเยี่ยม คนร้ายได้ขับรถชนเสาป้ายทาง ทำให้ นายสม ตกจากรถได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นคนร้ายก็ได้ขับรถหลบหนี กระทั่งมาถึงบริเวณหน้าวัดช่องลม ถนนพระราม 3 น.ส.ณัฐ จึงอาศัยจังหวะคนร้ายเผลอ กระโดดลงจากรถแล้วรีบหลบหนี ก่อนจะมาพบตำรวจ

ด้าน พล.ต.ต.สามารถ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังติดตามเบาะแสของรถตู้โฟล์คสโลวาเกน ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ พบว่าเป็นสีบรอนซ์เทา ใช้กระดาษที่มีตัวเลขปิดบังป้ายทะเบียนเพื่ออำพราง ส่วนเส้นทางที่คนร้ายใช้ จากการตรวจพบว่า มีจุดเริ่มต้นจากสวนลุมพินีที่รับหญิงสาว ก่อนวิ่งไปตามถนนพระราม 4 จนถึงเชิงสะพานไทย-เบลเยี่ยม ที่ นายสม ถูกชนแล้วคนร้ายก็หลบหนีเข้าถนนพระรามสาม โดยอาจเบี่ยงหลบใต้ทางด่วน

ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า นายสม ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้ว ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวคนร้าย แต่กำลังเร่งสืบหาตัวอยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาใด แต่เบื้องต้นเข้าข่ายขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายจนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และอาจเข้าข่ายหน่วงเหนี่ยวกักขัง เนื่องจาก น.ส.ณัฐ ถูกพันธนาการระหว่างอยู่ในรถ

ส่วนปมการก่อเหตุตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าอาจเป็นประเด็นชู้สาว จากนี้ยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม เนื่องจากยังไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่าง นายสม กับ น.ส.ณัฐ อย่างแน่ชัด พร้อมกับเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป