เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เปิดใจหนุ่ม…!! เจอพิษโควิด ตกงานชีวิตเคว้ง พาเมีย-ลูกวัย 2 เดือนเร่ร่อน นอนใต้สะพานลอย

วันที่ 16 ก.ค. จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ แก้ม โพสต์ข้อความลงในเพจสระบุรีว่า “ใครผ่านหน้าแมคโครสระบุรีก็แวะดู 3 คนพ่อแม่ลูกใต้สะพานหน่อย พี่เค้ามาจากหนองคายมาหางานทำ ตกงานช่วงโควิด ลูกยังเล็กๆ อยู่เลย ได้ 2 เดือนเอง น้องเป็นผู้ชายจ้า ยังไม่มีที่พักต้องอาศัยนอนใต้สะพาน น่าสงสาร ฝนก็ตกด้วยช่วงนี้ ซื้อน้ำซื้อนมไปให้ก็ยังดีคะ คนไทยไม่ทิ้งกัน’’

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบใต้สะพานลอยดังกล่าว แต่ไม่พบครอบครัวและทราบว่า มีผู้ใจบุญช่วยเหลือรับไปอยู่ที่บ้านพัก ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ติดกับวัดซับบอน ถ.มิตรภาพ จึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว

พบนายอิทธิศักดิ์ เบญมาศ อายุ 37 ปี และนางรัตศิตา แก้วโนน อายุ 42 ปี น.ส.วีนัส พิมจักร อายุ 27 ปี สามพี่น้องผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือหนุ่มตกงาน ก่อนพาผู้สื่อข่าวมาพบ นายสมัย ศรีหาราช อายุ 37 ปี พร้อมเมียและลูกน้อยวัย 2 เดือน ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่ใหญ่มากนัก

นายสมัย ศรีหาราช เล่าว่า ตนเป็นคนหนองคาย โดยได้เดินทางมาพร้อมนางวิภารัตน์ กนนางรอง ภรรยา และด.ช.พีระพัฒน์ กนนางรอง ลูกชายวัย 2 เดือน มาทำงานที่สระบุรี เป็นคนขับรถบรรทุก 6 ล้อของบริษัทแห่งหนึ่ง และอาศัยอยู่ในบริษัท โดยทำงานที่บริษัทนี้เป็นเวลา 8 เดือน

จนมีผลกระทบจากโควิด19 ทำให้บริษัทแห่งนี้ปิดกิจการ เพราะทนกับเศรษฐกิจไม่ไหว ตนจึงตกงานและออกจากบริษัท มาหางานทำก็ไม่มีคนรับ เนื่องจากว่าไม่มีบัตรประชาชน ถูกกล่าวหาเป็นคนต่างด้าว จึงได้พาลูกเมียเร่ร่อนไปนอนตามปั๊มและใต้สะพานลอยประมาณ 4 เดือนแล้ว

“ช่วงที่ผ่านมาขอข้าวชาวบ้านกิน เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ดีว่าลูกชายวัย 2 เดือนไม่ได้กินนมผง กินนมแม่ ไม่อย่างนั้นคงจะอดกินนมเป็นแน่แท้ จึงอยากวอนหน่วยงานราชการช่วยทำบัตรประชาชนให้ เพื่อจะได้ไปหางานทำเลี้ยงลูกเมีย โดยไม่ต้องเดือดร้อนผู้อื่น เพราะเกรงใจที่เขาต้องคอยมาช่วยเหลือ ตอนนี้ได้มีผู้รับเหมาคนหนึ่ง ติดต่อมาชวนให้ไปทำงานอยู่กับเขา แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นมา”

นายอิทธิศักดิ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนเจอในเพจสระบุรีมีคนโพสต์ว่า พ่อแม่ลูก และมีเด็กน้อยกำลังลำบาก จึงไชวนพี่น้องไปช่วยเหลือและรับมาอยู่ก่อนเบื้องต้น ตอนนั้นเขานอนอยู่ใต้สะพานลอย แต่ไม่เจอ เพราะย้ายไปนอนที่ศาลาริมเขาข้างทาง จึงได้เข้าไปคุยชักชวนกัน ให้มาอยู่ที่บ้านก่อนและจะช่วยหางานให้ทำ ตนคิดได้แค่นั้น

ส่วนนางรัตศิตา บอกว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่สาว พอดีพี่สะใภ้ย้ายไปอยู่กับลูก บ้านจึงได้ว่าง เลยให้เขาพักอยู่ที่นี่ก่อน ตนเห็นว่าเขามีลูก เล็กสงสารเด็ก และเขาก็บอกเขาว่าตกงาน ไม่มีบัตรประชาชน ตอนแรกบอกว่าจะมีคนมารับ ตนจึงได้เอาเงินใส่มือเด็กช่วยไป 500 บาท พอพูดไปพูดมา จึงรู้ว่าตนนี่แหละที่เป็นคนติดต่อจะมารับ จึงชวนเขามาอยู่บ้าน ก็ยินยอมมาอยู่ด้วย พวกตนภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคน ทั้งที่พวกเราก็ไม่มีเหมือนกัน แต่เรามีใจช่วย เปิดใจ

 

*************************************

(ขอขอบคุณเรื่องจาก ข่าวสด)