เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แพทย์คนผ่าเข้าพบกมธ.ในสภาชี้แจงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำหนิตั้งธงไม่อิงหลักฐานวิทยาศาสตร์ แม่อึ้งทำอะไรไม่ถูก ลุงพลไม่เชื่อภูเขาสูงขนาดนั้น น้องจะขึ้นไปอย่างไร

จากกรณีการที่น้องชมพู่ เสียชีวิตปริศนา บนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพัก 2 กิโลเมตร ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งผ่านมาร่วม 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีการออกหมายจับคนร้าย ขณะที่คนในครอบครัวของน้องชมพู่ ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวกันเอง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นพ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องชมพู่คนแรก ได้เปิดเผยผลชันสูตรศพน้องอย่างละเอียด กับ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯของรัฐสภา

โดยได้ระบุว่า ได้ทำการชันสูตรศพเมื่อเวลาบ่าย 2 โมงครึ่งของวันที่ 15 พ.ค. ยืนยันว่าสภาพศพภายนอก มีเพียงร่องรอยขีดข่วน ที่อาจเกิดจากกิ่งไม้ ซึ่งรอยขูดขีดจะกระจายเป็นกลุ่มๆ แต่พบมากที่สุดบริเวณแผ่นหลัง รองลงมา คือ เหนือข้อเท้าด้านซ้าย ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นขณะยังมีชีวิต ส่วนอวัยวะภายใน มีหลายส่วนเริ่มเน่าจนไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ แต่ก็ยืนยันว่า สมอง และ ปอดไม่พบความผิดปกติ ที่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย มีเพียงการเน่า กะโหลกศรีษะไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ

ขณะที่กระเพาะอาหารไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่เลย มีเพียงของเหลว 10 มิลลิลิตร เท่านั้น ที่สำคัญอวัยวะเพศไม่พบร่องรอยที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด เยื่อพรหมจารียังอยู่ครบสมบูรณ์ เมื่อผลไม่ปรากฎหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุได้ว่า นี่คือคดีฆาตกรรม แพทย์นิติเวช จึงตำหนิการทำงานของตำรวจที่ผ่านมาที่พยายามหาหลักฐานเชื่อมโยง มองว่าเป็นการสืบสวนสอบสวนที่ไม่ถูกต้อง ตั้งธง โดยไม่อิงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญ

ทางนายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์มองว่าหากไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ก็ยังมีความเป็นไปได้กรณีเด็กพลัดหลงป่า จนขาดอาหาร ขาดน้ำ เสียชีวิต โดยมองว่าแม้จุดพบศพน้องชมพู่ จะต้องขึ้นเขาไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร แต่น้องมีระยะเวลา 3 วัน ก่อนจะเสียชีวิต ทางแม่ของน้องชมพู่เผยว่า หากผลสรุปว่าน้องเสียชีวิตเอง ไม่ได้เกิดจากการฆาตกรรมได้ ตนก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน 

ด้านลุงพลที่เคยถูกมองเป็นผู้ต้องสงสัยมาโดยตลอดบอกว่าถ้าหากผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ออกมาว่าน้องเสียชีวิตเองนั้น ส่วนตัวก็ต้องเชื่อตามหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถึงอย่างไร ผลที่ออกต้องชัดเจนพอ ที่จะทำให้พ่อแม่ของน้องชมพู่ยอมรับ เพราะพวกเขาคือผู้สูญเสียลูกสาว แต่สำหรับตัวเอง ไม่เชื่อว่าน้องจะตายเอง เพราะ ว่าจุดที่พบศพนั้นอยู่สูงมาก ไม่เชื่อว่าน้องจะขึ้นไปเองได้