เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านพร้อมสภาทนายความ แจ้งความดำเนินคดีรายการช่องส่องผี ผิด พ.ร.บ.คอมฯ ลั่นต้องมาขอขมาต่อหน้าย่าโม และนางสาวบุญเหลือ แค่ปิดช่องหนีไม่เพียงพอ ขู่ให้เวลา 15 วัน ไม่อย่างนั้นกดดันขั้นหนัก สภาทนายชี้ยอมความไม่ได้

9 กรกฏาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่รายการช่องส่องผีกล่าวหาว่า ย่าบุญเหลือซึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณย่าโม เป็นภรรยาของปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา ส่วนคุณย่าโมเป็นภรรยาหลัก ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาสอง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มีการตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา สั่งการให้วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ไปประสานกับลูกหลานของคุณย่าบุญเหลือ เพื่อให้แจ้งความดำเนินคดีกับรายการดังกล่าว ในข้อหาหมิ่นประมาทตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อช่วงสายวันนี้ เวลา 10.53 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครราชสีมา นายศักดิ์ชาย ชาติพุดซา นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมารวม 30 คน พร้อมด้วยนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพันตำรวจเอกกฤตยา เลาประสพวัฒนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครราชสีมา

ในข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถนนราชดำเนิน ถวายธูปเทียนดอกไม้ พวงมาลัยดอกดาวเรือง และแสดงเอกสารใบแจ้งความ ก่อนแสดงพลังชูกำปั้น ตะโกนคำว่า ลูกย่าโมออกศึก สู้ให้ถึงที่สุด ตะโกนพร้อมชูมือเสียงดังเฮ ก่อนสลายตัว

นายศักดิ์ชาย ชาติพุดซา นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ที่พวกเรามาแจ้งความเกี่ยวกับช่องส่องผีที่บิดเบือนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ ที่พี่น้องชาวโคราชให้ความเคารพนับถือกราบไหว้สักการะมาหลายร้อยปี ซึ่งเรื่องนี้พวกเราไม่ยอมอย่างเด็ดขาด ในฐานะมาตนเป็นนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจ.นครราชสีมาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ฐานบิดเบือนประวะติศาสตร์ ฉะนั้นอยากจะเรียกร้องให้ทางช่องส่องผีได้มาขอขมาท่านท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือของพวกเรา เพื่อมายืนยันให้ชัดเจนต่อหน้าคุณย่าโมและนางสาวบุญเหลือ ไม่ใช่ไปลงออกทางสื่ออะไรต่างๆตรงนี้พวกเราไม่ยอม ลักษณะอยากให้มาขอขมาและให้พี่น้องชาว จ.นครราชสีมา ที่รับรู้ทุกคนที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

จากการที่มีการถอดรายการนี้ออกแสดงความรับผิดชอบแล้ว ตนคิดว่ามันยังไม่เพียงพอ และถ้าไม่ยอมมาเราจะมีมาตรการเพิ่มขึ้นอีกขั้นตอนหนึ่งต่อไป พวกเราขอให้กำหนดเวลา 15 วันนับจากวันนี้ (9 ก.ค.) เรื่องนี้ชาวโคราชแสดงความรู้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเราสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ในส่วนคดีต่างๆจะร่วมกับสภาทนายความจ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกต่างหากด้วย ส่วนการจะรวบรวมชาวบ้านแสดงพลังนั้น ต้องเรียนว่าตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ตอนนี้เรารวมพลังเฉพาะกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นหน้าด่านก่อน และถ้าหลังจาก 15 วันยังไม่มีท่าทีอะไรเราจะมีการพูดคุยหรือกดดันกันอีกครั้งหนึ่ง

นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมา เป็นตัวแทนของพี่น้องชาว จ.นครราชสีมา มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับรายการช่องส่องผีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำข้อมูลที่บิดเบือนที่เป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยนายศักดิ์ชายฯเป็นตัวแทนในการให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งต้องเรียนว่า เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้

พันตำรวจเอกกฤตยา เลาประสพวัฒนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวภายหลังรับแจ้งความว่า เบื้องต้นตำรวจรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษจากนายศักดิ์ชาย ชาดพุดซาแล้ว จากนั้นในระหว่างนี้อาจจะมีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาบันทึกถ้อยคำจากเหตุการณ์ต่างๆ ในความประสงค์ของกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องการให้มาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในแต่ส่วนของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีพยานหลักฐานที่จะเป็นความผิดทาง พ.ร.บ.คอมฯหรือไม่อย่างไร และ พ.ร.บ.คอมฯเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเชิญช่องส่งผี ทั้งคุณบ๊วยและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาเป็นลำดับต่อไป ส่วนจะใช้เวลาแต่ไหนนั้น ก็คิดว่าขอระยะเวลาสักครู่ให้ตำรวจทำงานก่อน ซึ่งทราบว่าทาง กสทช.ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลแล้ว

ส่วนการที่ประชาชนจะออกมาเคลื่อนไหวอะไรนั้น ตนคิดว่าในกรณีที่พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารอะไรถ้าเรารู้สึกว่าไม่ตรงกับความเป็นจริงก็ให้ใช้วิจารณญาณในส่วนหนึ่งและวิเคราะห์เอา ซึ่งบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเชื่อตามสิ่งที่ผู้ดำเนินรายการในรายการต่างๆนั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ในส่วนพี่น้องประชาชนไม่ต้องห่วงตอนนี้มีตัวแทนประชาชนได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วที่เหลือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ส่วนจะเชิญเจ้าของรายการมาสอบปากคำ ก็คงจะหลังจากวันที่เจ้าของรายการไปให้ถ้อยคำกับ กสทช. แล้ว