เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ลงนามใน ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เรื่อง การเปิดเรียนของสถานศึกษาในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ และการใช้อาคารสถานที่ของส่วนราชการในสังกัดและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ

ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การเปิดเรียนของสถานศึกษาในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 9 เมษายน 2563 ให้สถานศึกาาในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยให้สถานศึกษาจัดให้มีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น

กระทรวงศึกษาธิการ

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ และคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นสมควรผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 9 วรรคหนึ่ง (4) ของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่า ด้วยปีการศึกษาการเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยปีการศึกษาการเปิดและปิดสถานศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 และข้อ 7(3) ของระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษาเอกชน พ.ศ. 2563 จึงให้สถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบที่อยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนราชการในสังกัดและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการ ดังนี้

  • การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชนประเภทนานาชาติ และโรงเรียนกวดวิชา ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563
  • การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 โดยในระหว่างวันที่ 15 – 30 มิถุนายน 2563 เป็นการใช้อาคารสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านการจัดการเรียนการสอน เพื่อเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
  • การใช้อาคารสถานที่ของส่วนราชการในสังกัดและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อการอบรม สัมมนาในหลักสูตรอบรมที่หน่วยงานจัดขึ้น ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563

โดยต้องดำเนินการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรการของหน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานผู้กำกับดูแลอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า โรงเรียนทั่วประเทศจะมีการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 และทำการเรียนการสอนที่โรงเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็ก ครู ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษา เพราะการเรียนการสอนที่โรงเรียนจะมีคุณภาพและมีความเหมาะสมมากที่สุด แต่ต้องเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนที่อื่น หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้

อย่างไรก็ตาม ต้องมีมาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ห้องเรียนที่มีนักเรียนจำนวนน้อยลงไม่เกิน 20 คน หากเกินกว่านั้นให้เข้าเรียนเป็นผลัดเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ครู ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการคลายล็อกระยะที่ 4 ซึ่งมีผลตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2563 ในส่วนของการศึกษา มีดังนี้

  • การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2563 จึงผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน หรือการฝึกอบรมของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพิ่มเติมจากที่ได้กำหนดไว้แล้ว ตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
  • โดยให้โรงเรียนในระบบประเภทนานาชาติ สถาบันการศึกษา หรือมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติ โรงเรียนนอกระบบประเภทกวดวิชาตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบคน สามารถใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือการฝึกอบรมได้
  • โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ต้องดำเนินการจัดรูปแบบการเรียนการสอน สถานที่ รวมทั้งบุคลากรและเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมสอดคล้องกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ให้เป็นไปตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความเสี่ยงต่อการติดโรค การแพร่กระจายเชื้อ และความปลอดภัยของผู้เรียนเป็นสำคัญ
  • ส่วนการเปิดเรียนและรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียน สถาบันการศึกษา หรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ให้เป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณีกำหนด โดยปฏิบัติตามความในวรรคก่อนด้วย โดยอนุโลม
  • สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ สถานดูแลผู้สูงอายุ สถานที่บริการดูแล สถานที่พำนักอาศัย หรือสถานสงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการ ให้แก่เด็กหรือผู้สูงอายุ สามารถเปิดดำเนินการให้บริการแบบรายวันได้ ทั้งนี้ การเดินทางไปกลับ สถานที่ดังกล่าวถือเป็นเหตุยกเว้นการปฏิบัติตามมาตรการอันพึงปฏิบัติของกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม กรณีเข้าชมเป็นกลุ่ม ให้แบ่งเป็นกลุ่มเล็ก และเข้าชมเป็นรอบ