เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เว็บไซต์บัซฟีด รายงานว่า มีก้า สตอฟเฟอร์ (Myka Stauffer) ยูทูบเบอร์ดังชาวอเมริกันและสามี สร้างกระแสช็อกไปทั่วอินเทอร์เน็ต หลังจากที่เธอกับสามีออกมาประกาศว่าได้ยกลูกบุญธรรมให้กับครอบครัวอื่นไปแล้ว เพราะประสบปัญหาในการเลี้ยงดู เนื่องจากเขาเป็นออทิสติก โดยทุกคนต่างช็อก เพราะเธอได้รับเงินสนับสนุนจากแฟน ๆ ในการไปรับเด็กมาเลี้ยง อีกทั้งยังใช้เด็กทำคอนเทนต์หาเงินได้มหาศาล แต่สุดท้ายกลับเทเขาทิ้งกลางทาง
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนมีก้ากับสามี มีลูกด้วยกัน 3 คน พวกเขาก็ได้แชร์ทุกอย่างลงบนแชนแนลยูทูบ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีผู้ติดตามมากนัก จนกระทั่งในปี 2559 มีก้า ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศข่าวดีว่าเธอกำลังจะมีลูกคนที่ 4 แต่ไม่ได้มีเอง เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องรับอุปถัมภ์เด็กชาวจีนมาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัว และตั้งใจว่าจะรับเด็กจากเอธิโอเปีย หรือไม่ก็ ยูกันดา มาเป็นบุญธรรมด้วย หากภารกิจนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังจากมีก้าประกาศข่าวนี้ ผู้ติดตามบนยูทูบของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยมีก้าได้โพสต์คลิปวิดีโอรวมทั้งหมด 27 คลิป บอกเล่าความตื่นเต้น ความตื้นตัน และเส้นทางในการจะเป็นแม่บุญธรรมมือใหม่ของเด็กจีนคนนี้
ในคลิปหนึ่ง มีก้าได้เปิดระดมทุน ด้วยการทำภาพจิ๊กซอว์ขึ้นมา 1,000 ชิ้น ซึ่งเป็นภาพของเด็กน้อย ใครที่อยากเปิดภาพและอยากเห็นหน้าเด็กเต็ม ๆ จะต้องจ่ายเงินค่าเปิดจิ๊กซอว์ชิ้นละ 5 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 160 บาท โดยมีก้าระบุว่าจะเขียนใส่ชื่อผู้บริจาคทุกคนลงในสมุดของเด็ก นอกจากนี้ ในปี 2560 มีก้ายังได้ทำคลิปสปอนเซอร์เป็นจำนวนมาก เพื่อเปิดทางไปสู่การรับเด็กมาเลี้ยง และยืนยันว่าเงินทั้งหมดที่ได้จะเก็บไว้เป็นผลประโยชน์ของเด็กเท่านั้น
ต่อมา มีก้ากับสามีได้รับแจ้งจากเอเจนซี่ว่าเด็กมีเนื้องอกในสมอง และสมองได้รับความเสียหาย เธอกับสามีเล่าว่า ตนเองมีความกังวล เพราะไม่พร้อมที่จะรับเด็กพิเศษมาเลี้ยง แต่ความรู้สึกรักเด็กมันท่วมท้นในจิตใจ และพระเจ้าได้นำทางให้เธอลุยต่อ จนกระทั่งในเดือนตุลาคม 2560 มีก้าก็โพสต์คลิปวิดีโอระบุว่าได้รับเด็กจีนมาเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว น้องเป็นเด็กผู้ชาย วัย 2 ขวบ ซึ่งคลิปที่เธอเดินทางไปรับเด็กคนนี้มีคนกดเข้าไปดูมากกว่า 5.5 ล้านครั้ง
หลังจากนั้น มีก้าได้ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กมีปัญหาทางสมองจริง เขาประสบภาวะความบกพร่องในการประมวลผลทางประสาทสัมผัส (Sensory Processing Disorder) และเป็นออทิสติก พร้อมกล่าวว่า การเลี้ยงดูเด็กพิเศษเป็นเรื่องท้าทายมาก แต่มันคือการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด
มีก้า มักจะนำลูกบุญธรรมมาทำคลิปลงยูทูบด้วย อาทิ 5 เรื่องราวที่น่าสนใจของเขา ไปจนถึงคลิปน่ารัก ๆ อื่น ๆ หลังจากนั้น ยอดผู้ติดตามของเธอก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในยูทูบและอินสตาแกรม ซึ่งมีแฟนคลับเข้ามากดเลิฟเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้ว เธอยังได้รับการติดต่อจากสปอนเซอร์มากมายหลายเจ้า เรียกได้ว่าเธอโด่งดังเป็นที่รู้จักและหาเงินได้มากเพราะลูกคนนี้ เธอยังทำคลิปอัปเดตหลังจากรับเขามาเลี้ยงได้ 10 เดือน และคลิปฉลองครบ 2 ปี ซึ่งมีก้ากล่าวว่า เขาแข็งแรงดี และมีพัฒนาการที่ดีกว่าเดิมมาก
นอกจากนี้แล้ว มีก้ายังไปออกรายการข่าวมากมาย เธอแสดงตัวเป็นศูนย์กลางของสังคมการอุปถัมภ์เด็ก และแสดงจุดยืนต่อสู้เพื่อสิทธิเด็ก โดยปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามบนยูทูบมากกว่า 714,000 คน แต่แล้วจู่ ๆ ในช่วงปลายปีที่แล้ว ลูกคนนี้ก็หายไปจากแชนแนลยูทูบของมีก้า เธอไม่ได้ลงคลิปของเขาอีกเลย และหยุดลงโพสต์รูปเขาลงบนอินสตาแกรม แฟนคลับหลายคนเป็นห่วงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หญิงสาวเจ้าของแอคเคานต์อินสตาแกรม @MykaStaufferFan ได้ทักไปถามมีก้าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใด ๆ อีกทั้งยังถูกบล็อกในทันที หญิงสาวเจ้าของแอคเคานต์ เปิดเผยกับบัซฟีด ว่า ตนเองต้องการรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง ซึ่งมันผิดปกติ เหล่าแฟนคลับก็กดดันให้มีก้าออกมาพูดความจริง
จนกระทั่งล่าสุด วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 มีก้าและสามีก็ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโออัปเดต ประกาศว่าพวกเขาไม่ได้เป็นพ่อแม่ของเด็กคนนี้อีกต่อไป และได้ยกเด็กให้กับครอบครัวอื่นไปแล้ว หลังจากอาการออทิสติกของเขาปรากฏชัดเจนมากขึ้น และคิดว่าเลี้ยงต่อไปไม่ไหว ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เพราะพวกเขารักเหมือนลูกแท้ ๆ การที่เขาจากไปหลังอยู่ด้วยกันมาหลายปี มันทรมานหัวใจที่สุด
คลิปนี้ได้สร้างกระแสเดือดดาลอย่างหนัก ชาวเน็ตต่างเข้ามาถล่มวิจารณ์เละ หาว่าทั้งสองไม่อยากรับเด็กพิเศษมาเลี้ยงตั้งแต่แรก แต่ก็ยังทำ อีกทั้งยังได้เงินค่าสนับสนุนจากแฟน ๆ เป็นค่าเดินทาง แล้วก็เอาเด็กมาหากินได้เงินมากมาย สุดท้ายก็ปล่อยเขาทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
นอกจากนี้แล้ว ข้อมูลจาก เมโทร ระบุว่า ในช่วงปี 2559 มีก้าเคยพูดว่า “เธอและสามีจะไม่มีทางทอดทิ้งเขาเป็นอันขาด เราผ่านช่วงเวลาที่ดีและเลวร้ายมาด้วยกัน เธอไม่อยากให้หนูน้อยต้องเป็นกังวล เพราะพ่อกับแม่จะไม่ทอดทิ้งหนูอย่างแน่นอน ไม่มีวันทอดทิ้งเป็นอันขาด” แต่สุดท้ายก็พวกเขาก็ยกเลิกการเป็นพ่อแม่บุญธรรม แล้วยกให้คนอื่นไป
ทางด้านทนายความของมีก้าและสามี ก็ออกมาชี้แจงว่า พวกเขาทั้งสองเป็นพ่อแม่ที่รักลูกมาก และให้ความสำคัญกับลูกมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่พวกเขารับเด็กมาอุปการะ ทั้งสองได้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักการศึกษาในด้านต่าง ๆ เพื่อรักษาและเลี้ยงดูหนูน้อยให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทนายอ้างว่าหลังจากปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำให้มอบเด็กให้กับครอบครัวอื่นที่พร้อมกว่าในการดูแลเด็กพิเศษ ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและเจ็บปวดมากสำหรับมีก้าและสามีของเธอ