เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คืบคดีน้องชมพู่ จากเด็กหายกลายเป็นศพ ส่งศพตรวจที่อุบลฯ พนักงานสอบสวนที่มุกดาหารเผยถูก “ล่วงละเมิดทางร่างกาย”

จากกรณี เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ เด็กหญิงที่หายออกจากบ้าน ใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออก 3 หน่วย หน่วยที่ 1 ลุยค้นหาในลำห้วย หน่วยที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ปูพรมขึ้นค้นหาบนภูเขา ส่วน ตชด. 234 นำกำลังพร้อมสุนัขดมกลิ่น ร่วมค้นหาบริเวณป่าละเมาะ

กระทั่งต่อมา การค้นหาน้องชมพู่ ที่หายจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่ออกค้นหาขึ้นเขาลงห้วยมาตลอดจนถึงวันที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้พบร่างน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร สภาพนอนไม่สวมเสื้อผ้าอยู่บนภูเขาเล็บไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 4 กม. พื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง

ทั้งนี้ ได้มีชาวบ้านขึ้นเขาหาของป่าเดินไปพบรองเท้าของเด็ก จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า พบรองเท้าเด็กตกอยู่บนเขาเล็บไฟ เจ้าหน้าที่จึงรีบขึ้นไปตรวจสอบ และพบศพเด็กดังกล่าว เบื้องต้น สันนิษฐาน ว่าน้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นเขาตามลำพังด้วยตัวเองได้ ต้องมีใครชวนขึ้นมาอย่างแน่นอน ส่วนศพน้องชมพู่ เจ้าหน้าที่จะส่งไปชันสูตร

ล่าสุด เวลา 09.00 น. วันที่ 15 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งร่วมตรวจดูศพน้องชมพู่ พบว่า ไม่สวมเสื้อผ้า และมีร่องรอยคล้ายถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่เพื่อให้มีความชัดเจน จึงได้นำส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค.

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หายปริศนาไปจากบ้าน ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งเเต่เช้าวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนจะพบกลายเป็นศพ

พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดมุดาหาร ได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุเก็บพยานหลักฐานไว้ประกอบสำนวน ทำการชันสูตรพลิกศพร่วมกับเเพทย์ และจะนำศพไปชันสูตรพลิกศพละเอียดอีกครั้ง

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ทางคดีดำเนินคดีมีความคืบหน้าไปมาก ได้มีการตั้งชุดพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนปากคำผู้ที่เกี่ยวไปแล้วหลายปาก รวมถึงจัดตั้งชุดสืบสวนเร่งคลี่คลายคดี ขณะนี้มีเบาะเเสสำคัญ อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด และเปรียบเทียบเเผนประทุษกรรม และความเชื่องโยงต่างๆ โดยจะนำมาประกอบกับพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งรัดจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป