เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้สรุปยอดผู้ฝ่าฝืนพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในคำสั่งประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ทั่วราชอาณาจักร โดยคืนวันที่ 6 พ.ค.ตำรวจได้ตรวจค้นบุคคล รวม 29,349 ราย และยานพาหนะ รวม 22,115 คัน จับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ รวมทั้งสิ้น 753 คน ประกอบด้วยผู้ออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร 649 ราย และรวมตัวมั่วสุมในเคหสถานเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ รวม 104 ราย

โดยสาเหตุของการออกนอกเคหสถาน 3 อันดับแรก ได้แก่ ออกมาทำธุระ ร้อยละ 35 อื่นๆ ร้อยละ 29 และเดินทางกลับที่พัก ร้อยละ 24 มีผู้ถูกตักเตือน 50 คน และถูกดำเนินคดี 649 คน ส่วนสาเหตุการชุมนุม มั่วสุม ในเคหสถาน 3 อันดับแรก ได้แก่ ดื่มสุรา ร้อยละ 45 ลักลอบเล่นการพนัน ร้อยละ 20 และอื่นๆ ร้อยละ 18 มีผู้ถูกดำเนินคดี 104 คน

ทั้งนี้จังหวัดที่มีสถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีออกนอกเคหสถาน สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต 55 คน จังหวัดปทุมธานี 54 คน และ ราชบุรี 31 คน สำหรับผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548