บิ๊กตู่…!! อาจสั่งปิดร้านขาย”เครื่องดื่ม”หลังเห็นคนแห่แย่งซื้อ

เรียกได้ว่ามีการถูกพูดถึงจากมาก จากกรณีการแย่งซื้อเครื่องดื่มที่มีการแชร์ในโลกออนลไน์ วันที่ 5 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีผ่าน 2 วันหลังมาตรการผ่อนปรน ว่า ตนมองเห็นว่ายังมีอะไรหลายอย่างต้องปรับปรุง โดยเฉพาะความร่วมมือของภาคธุรกิจเอกชนต่างๆในการผ่อนปรนมาตรการ รวมไปถึงประชาชนที่อยู่ในระดับฐานรากด้วย ที่ต้องมีรายได้ในช่วงวันเวลาอันยากลำบากนี้ ซึ่งย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญทุกภาคส่วน

โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพราะเรายังวางใจในเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ในส่วนของการเปิดกิจการต่างๆ ตนเห็นว่าทั้งในส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก ที่ได้มีการผ่อนปรนไปแล้วก็ได้มีการปรับมาตรการของตัวเองในเรื่อง Social Distancing อย่างดี แต่หลายอย่างต้องมีการปรับให้มีมาตรฐาน โดยคำนึงถึงมาตรฐานของสาธารณสุขเป็นประเด็นสำคัญ

ในส่วนของการรุมแย่งซื้อเครื่องดื่ม นี้ผมขอตำหนิ และได้สั่งการไปแล้วว่าต้องมีมาตรการที่ชัดเจนในการซื้อเครื่องดื่ม ว่าต้องมีปริมาณที่ซื้อได้ในแต่ละรายเท่าไหร่ และต้องมีการเปิดตามเวลาที่กำหนด ต้องไม่มีภาพการแย่งเช่นนั้นอีก ไม่เช่นนั้นถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ ดังนั้นขอให้ภาคเอกชนร้านค้าต่างๆที่มีการขาย ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ออกไปไม่เช่นนั้นต้องถูกปิดไม่ให้ขายอีกต่อไป จึงขอให้มีมาตรการที่เหมาะสม นายกฯ กล่าว

โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่จำเป็นต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพราะเรายังวางใจในเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ในส่วนของการเปิดกิจการต่างๆ ตนเห็นว่าทั้งในส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก ที่ได้มีการผ่อนปรนไปแล้วก็ได้มีการปรับมาตรการของตัวเองในเรื่อง Social Distancing อย่างดี แต่หลายอย่างต้องมีการปรับให้มีมาตรฐาน โดยคำนึงถึงมาตรฐานของสาธารณสุขเป็นประเด็นสำคัญ

ในส่วนของการรุมแย่งซื้อเครื่องดื่ม นี้ผมขอตำหนิ และได้สั่งการไปแล้วว่าต้องมีมาตรการที่ชัดเจนในการซื้อเครื่องดื่ม ว่าต้องมีปริมาณที่ซื้อได้ในแต่ละรายเท่าไหร่ และต้องมีการเปิดตามเวลาที่กำหนด ต้องไม่มีภาพการแย่งเช่นนั้นอีก ไม่เช่นนั้นถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ ดังนั้นขอให้ภาคเอกชนร้านค้าต่างๆที่มีการขาย ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ออกไปไม่เช่นนั้นต้องถูกปิดไม่ให้ขายอีกต่อไป จึงขอให้มีมาตรการที่เหมาะสม นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังเตรียมการไปสู่ในระยะที่ 2 หากสามารถผ่านระยะที่ 1 ไปได้ในเวลา 14 วัน ซึ่งจะมีหลายเรื่องด้วยกันที่จะต้องเปิดในโอกาสต่อไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่จะมีประชาชนจำนวนมากเข้าไปสถานประกอบการขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าต่างๆ จึงขอเตือนว่า ต้องมีการกำหนดจำนวนคนที่เข้าในสถานที่เหล่านั้นอย่างจำกัด และให้มีการทยอยเข้าไป

รวมทั้งให้ใช้เวลาอยู่ในสถานประกอบการเหล่านั้นไม่เกิน 2 ชั่วโมงโดยประมาณ ไม่เช่นนั้นจะมีคนเข้าไปจำนวนมาก อาจทำให้เกิดปัญหาการแย่งชิงต่างๆอีกได้ ดังนั้นสถานประกอบการขนาดใหญ่หรือศูนย์การค้าจะต้องมีการตั้งเต็นท์หรือมีพื้นที่พักคอยอยู่ข้างนอก เมื่อถึงเวลาก็ให้เข้าไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องมีมาตรฐานในการคัดกรองผู้ที่เข้าไปใช้บริการ เช่น การวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือ

วันนี้กำลังพิจารณาในศูนย์โ ควิดฯ อยู่ว่าจะเปิดอะไรบ้างในระยะต่อไปก็ขอให้ท่านเตรียมการให้พร้อมด้วย แต่สิ่งที่ผมเป็นกังวลคือในสถานประกอบการขนาดใหญ่อาจมีความพร้อมมากกว่า เพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือมากกว่าและมีทุนทรัพย์มากกว่า แต่ในส่วนของตรงกลางท่านก็ต้องช่วยด้วย อะไรที่ต้องทำก็ขอให้ทำให้ได้ เราถึงจะเปิดได้จึงขอให้มีมาตรฐานที่รัดกุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงการประกาศพบผู้ติดเ ชื้ อตัวเลขหลักเดียว และที่ประกาศว่ากทม. ปริมณฑล ผู้ติดเ ชื้ อใหม่เป็นศูนย์ จะทำให้ประชาชนชะล่าใจการ์ดตกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามกลับสื่อว่าจะสร้างความเข้าใจกับประชาชนได้หรือไม่ เพราะตนคนเดียวไม่สามารถตัดสินได้ ต้องเป็นประชาชนด้วย รวมถึงสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ต้องสร้างความเข้าใจไปยังประชาชน แต่ย้ำว่าจะต้องไม่การ์ดตกไม่ว่าจะเป็นศูนย์หรือไม่ก็ตาม การ์ดตกไม่ได้เลยห้ามโดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ที่มีการแชร์ภาพประชาชนใช้รถไฟฟ้าจนแน่นนั้น จากการตรวจสอบทราบว่าเกิดจากความขัดข้องหลายอย่างด้วยกัน จึงได้สั่งให้มีการแก้ไขในเรื่องรถไฟฟ้าต่างๆ ที่มีความชำรุดหรือมีปัญหาในด้านสัญญาณ โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งได้กำชับให้มีการแก้ไขแล้ว วันนี้จึงถือเป็นเรื่องทางเทคนิคไม่สามารถกำหนดได้ล่วงหน้า แต่ได้ขอให้มีแผนงานการแก้ปัญหาเหล่านี้ไว้แล้ว

นายกฯ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า ตนขอร้องให้ทุกคนได้อดทน เพียรพยายามกันต่อไปในการนำพาประเทศของเราไปข้างหน้า ไม่ใช่ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ด้วยนายกฯ แต่ต้องไปด้วยกันคนไทยทุกคน นั่นคือความร่วมมือของเราในช่วงเวลานี้และต่อไป

 

**************************

(ขอขอบคุณเรื่องจาก dailynews)