ชาวอุบลฯ เผยชีวิตยาย-หลาน หลังยายรอเงินเบี้ยยังชีพคนชราพาหลานสาวตาบวมบูดทรมานด้วยความเจ็บปวดไปหาหมอ แต่ถูกทางโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา เหตุไม่ทีเงินจ่าย ครอบครัวยากจนพ่อและแม่ตกงานจากพิษโควิด-19 แถมเด็กเป็นลูกครึ่งลาว สุดช้ำใจคำพูดของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นคนลาวก็ต้องไปรักษาที่ลาว
เฟซบุ๊กเพจ ”พิกัดข่าวชาวอุบล” เผยเรื่องราวสุดรันทดของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเด็กหญิงอายุ ป่วยดวงตาบวมบูด โดยผู้เป็นยายและพ่อคาดว่าอักเสบ โดยมีผู้เป็นยายคอยดูแลหลานด้วยความเป็นห่วง ที่ต้องนอนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ซึ่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ยายนั้นพอได้เงินจากเบี้ยยังชีพคนชราได้พาหลานเหมารถพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี แต่ถูกปฏิเสธการรักษา เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายเพราะหลานเป็นต่างด้าว พ่อชาวไทยมีแม่ชาวลาว และต้องจ่ายค่าเอ็กซเรย์ก่อนถึง 8,000 บาท โดยเผยว่าเจ้าหน้าที่แจ้งต่อผู้เป็นยายว่า เป็นคนลาวก็ต้องไปรักษาที่ลาว สุดท้ายต้องพาหลานกลับบ้าน และทุกวันนี้ก็มาอาศัยเพิงพักของเจ้าของสวนยางอยู่ เงินจะซื้อข้าวกินก็ยังไม่มี พ่อแม่หลานก็ตกงานจากพิษ โควิด-19
ด้าน นายบุญสาน บุดดาพันธ์ อายุ 45 ปี พ่อเด็กหญิงวนิสา เปิดเผยเพิ่มว่า “ตนเองเป็นคนไทย แต่ภรรยาเป็นคนลาว ถือบัตรประจำตัวสีชมพูมีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกคือเด็กหญิงวนิสา อายุ 4ขวบ ส่วนคนเล็กก็เป็นเด็กหญิงอายุได้ 3 เดือน ช่วงที่มีเด็กหญิงวนิสาได้เดินทางไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการหลังคลอดแล้วก็พามาให้นางเพ็งเลี้ยงจนถึงปัจจุบันอายุ 4 ขวบ แต่ยังไม่ได้แจ้งเกิดจึงทำให้ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ส่วนคนเล็กแจ้งเกิดที่ อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันตกงานจาก พิษโควิด-19 จึงได้พากันเดินทางกลับมาอยู่ที่ อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี โดยมาขออาศัยเพิงพักเจ้าของสวนยางอยู่ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดลูกก็มาป่วยเงินจะรักษาก็ไม่มีที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คือคำพูดของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นคนลาวก็ต้องไปรักษาที่ลาวทั้งๆที่ผมเป็นคนไทย ลูกก็เกิดที่เมืองไทย จะผิดก็ตรงที่เมียเป็นคนลาว“
ล่าสุด ทางเพจได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่าขณะนี้มีผู้ใจบุญรับน้องมารักษาแล้ว คือพระอาจารย์น้ำ ฌานรโต สวนพระพุทธบูชา ป่าเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวเด็กที่ป่วยพร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้งและเงินสด จำนวน 3,000 บาท และมอบเงินสดจำนวน 2,000 บาท ให้กับรถพยาบาล สมาคมกู้ภัยทิวาเขมราฐ ที่ได้เดินทางมารับเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่ป่วย เพื่อนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสรรสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และมีนายธีรวัฒน์ ดำรงอัครวิวัฒน์ เจ้าของร้านดาวกาแฟ เลขที่83/1 ถนนจงกลนิธารณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากและมีคำถามตามมาว่าทำไมทางโรงพยาบาลไม่มองถึงความเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ เรื่องมนุษยธรรมมากกว่าอย่างอื่นเป็นจรรยาบรรณและวิชาชีพการแพทย์สาธารณสุขที่หมอต้องช่วยเหลือไม่ว่าเขาเป็นเชื้อชาติไหนก็ตาม”
