เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 30 เม.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงถึงการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ว่า สำหรับมาตรการผ่อนปรน ประเภทกิจการและกิจกรรม 6 ประเภท เริ่มวันที่ 3 พ.ค.นี้ ประกอบด้วย

1.ตลาด ประกอบด้วย ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย

2.ร้านจำหน่ายอาหาร ประกอบด้วย ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้าง) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่

3.กิจการค้าปลีก-ส่ง ประกอบด้วย ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่งและนั่งรับประทาน รถเร่ หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม

4.กีฬาสันทนาการ ประกอบด้วย กิจกรรมในสวนธารณะ ได้แก่ เต้นรำ ไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งเป็นการออกกำลังกายโดยไม่เล่นเป็นทีม และไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม

5.ร้านตัดผม เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม

6.อื่นๆ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยง รับฝากสัตว์

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับทั้ง 6 กิจกรรมจะประเมินผลใน 14 วัน หากพบว่ายอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากเลขตัวเดียว เป็นหลักสิบ หลักร้อย อาจต้องมาพิจารณามาตรการใหม่ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากทั้ง 6 กิจกรรมที่ผ่อนปรน พบว่ายังไม่มีมาตรการผ่อนปรนให้เปิดห้างสรรพสินค้าตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้กลับมาเปิดให้บริการ

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ชี้แจงถึงการเปิดร้านอาหารว่า สำหรับร้านอาหารนอกห้าง หรือร้านอาหารทั่วไป คำจำกัดความคือ ร้านอาหารขนาดไม่เกิน 2 คูหา ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ส่วนร้านอาหารติดแอร์นั้น อยากให้มีเครื่องดูดอากาศ เพราะจะมีประโยชน์มาก ซึ่งหลังจากนี้จะมีมาตรการหลักและเสริม มอบให้ร้านต่างๆ โดยออกเป็นคู่มือให้

เบื้องต้นให้ร้านอาหารจัดโต๊ะห่างกัน 1 เมตร สามารถนั่งในร้านได้ ส่วนร้านสุกี้เปิดได้ แต่ต้องนั่งกินคนเดียว ถ้าเป็นไปได้อยากให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน พร้อมต้องตรวจวัดไข้ก่อนเข้าร้านด้วย

ส่วนถนนคนเดิน อยากให้ร้านเว้นระยะ 1 เมตร หรือเว้นระยะให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนขายและลูกค้าเอง ส่วนแผงลอยและตลาดนัด หากพบการฝ่าฝืนจะไม่มีโทษ แต่จะตักเตือนกันเท่านั้น