จากกรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.Plus+” เผยข้อมูลมีผู้ประกอบการ ถูกข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรที่ดูแลการจัดงานฌาปนกิจ ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โคราช ยักยอกเงินค่าสังฆภัณฑ์ ดอกไม้ อาหาร พวงหรีด โลงศพ ไปใช้ส่วนตัว โดยอ้างว่าเงินหายนั้น
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก กองกำกับการฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ ว่า ข้าราชการตำรวจ รายดังกล่าว คือ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ พันธ์สนิท สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ (ดูแลรับผิดชอบ วัดตรีทศเทพ) มีหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานฌาปนสถาน รวมถึงการเก็บเงิน ส่งเงินบำรุงการใช้ฌาปนสถานให้กับทาง สำนักงบประมาณและการเงิน (ตร.) ต่อมาทาง พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ ไม่ส่งเงินตามระเบียบ เมื่อมีการทวงถาม ก็อ้างว่ากำลังรวบรวมหลักฐานทางการเงิน
โดยในเรื่องนี้ได้ดำเนินการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ สก. ที่ 9/2563 ลง 4 มีนาคม 2563 โดยกล่าวหาว่า ไม่ได้นำส่งเงินรายได้งานฌาปนสถาน และไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง เห็นควรตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงต่อไป
สำหรับประเด็นที่ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ ได้ติดต่อผู้ประกอบการ สั่งซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้ในงานฌาปณกิจสงเคราะห์ตำรวจ โดยเจ้าภาพงานศพได้ชำระค่าใช้จ่ายให้แก่ พ.ต.ต.ธีร์ธดล ไปแล้ว แต่ทาง พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ ไม่ยอมนำเงินมาชำระให้แก่ทางผู้ประกอบการนั้น เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.ชนะสงคราม ว่า มีผู้เสียหาย ที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในเรื่องดังกล่าว จำนวน 3 ราย
โดยดำเนินคดีในข้อหาความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนที่ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ ได้ไปหลอกผู้อื่น เพื่อเบียดบังเอาทรัพย์ไปนั้น ขอเรียนว่าเป็นเรื่องของบุคคล ไม่เกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวน เร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินคดีกับตำรวจที่กระทำผิดกฎหมายรายดังกล่าว โดยยืนยัน ให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เสียหายและเอาผิดกับตำรวจที่ทุจริตในคดีอาญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ประกอบกับให้ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เร่งสอบสวน เอาผิด กรณีเบียดบังทรัพย์สินของทางราชการเป็นของตนพร้อมดำเนินการลงทัณฑ์ทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง