เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวย ศบค. กล่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งระบุว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะทำจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีของไทย 20 คน เพื่อขอให้บอกว่าในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสของสังคมท่านจะร่วมมือกันกับเราได้อย่างไร และท่านจะลงมือช่วยเหลือประเทศไทยของเราให้มากขึ้นได้อย่างไรบ้างต่อไปมหาเศรษฐีของประเทศไทยทั้งหลายล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผมขอให้ท่านได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็น #ทีมประเทศไทย ด้วยกันกับเราด้วย

ก่อนอื่นขอถือโอกาสวันปีใหม่ไทยที่เพิ่งผ่านไป กล่าวสวัสดีวันปีใหม่ไทยกับคนไทยทั้งประเทศ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่สมบูรณ์แข็งแรง และผมหวังว่าทุกท่านจะมีความสุข ในวันสำคัญอีกวันของคนไทย คือวันครอบครัว

ถึงแม้ว่าปีนี้ จะแตกต่างไปจากทุกปีที่ผ่านมาแต่ก็ยังเป็นวันสงกรานต์และวันครอบครัวที่มีความหมาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เห็นว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเรา คือครอบครัว ไม่ว่าเราจะต้องเจอกับปัญหาใดๆ ก็ตาม คนที่อยู่เคียงข้างเรา ก็คือ พ่อ แม่ พี่น้อง และลูกหลานของเรา

ปีนี้ ครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มากกว่าเพียงแค่ญาติพี่น้องทางสายเลือด แต่ครอบครัวของเรา คือเป็นคนไทยทั้งประเทศ ที่อยู่รอบข้างเรา 70 ล้านคน

ในช่วงวิกฤตนี้ มีแค่พวกเรากันเองในครอบครัวไทยเท่านั้น ที่จะพึ่งพากันได้ที่จะช่วยกันบรรเทาความทุกข์ร้อน และความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญ อย่างเช่นคนแปลกหน้าที่ซื้ออาหาร มาแบ่งปันให้ได้อิ่มท้องแบ่งเบาภาระให้เราอยู่รอดต่อไปได้ นี่คือหมายความของการเป็นครอบครัวเดียวกัน

ปัจจุบัน ประเทศไทยของเรา กำลังอยู่ในภาวะการณ์ที่ตึงเครียดที่สุด กำลังทำลายชีวิต และการดำรงชีวิตของคนไทยจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถ้ามองไปทั่วโลกก็เห็นได้ว่าวิกฤต COVID-19 ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย โดยไม่สนใจว่าเป็นประเทศร่ำรวย ประเทศยากจนหรือประเทศมหาอำนาจ

หลายประเทศทั้งในภูมิภาคตะวันตก ยุโรป และอื่นๆ รวมถึงประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุดก็มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและมีจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นหลักหมื่นโดยผู้เชี่ยวชาญยังคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิต อาจพุ่งสูงไปถึงหลักแสนต่อไปในอนาคต ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงเกิดกับชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเสียหายไปถึงการทำงานการค้าขาย และการทำมาหากินที่เกือบจะหยุดชะงักทั้งหมด

นี่จึงเป็นภาวะวิกฤตครั้งใหญ่ ที่ทุกรัฐบาลจำเป็นต้องดึงศักยภาพ ที่ดีที่สุดออกมาให้ได้

งานนายกฯ วันนี้ ดูแลสุขภาพและงานช่วยเหลือ ปชช.

ตอนนี้งานที่ผมมุ่งเน้นเป็นสำคัญแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มงานหลัก กลุ่มงานแรก คือ งานที่เกี่ยวกับสุขภาพ หมายถึง สิ่งที่เราต้องทำ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค COVID-19 และ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาผู้ติดเชื้อ

กลุ่มงานที่ 2 คือ งานเกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตผ่านมาตรการและความช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งผมได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการคิดและปฏิบัติมาตรการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ

หน้าที่ของผม คือ การบัญชาการ และควบคุมการทำงานทั้งหมดของรัฐบาลแทนพี่น้องประชาชน ผมต้องเป็นผู้นำให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานทำหน้าที่อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ

ไม่ทิ้งปัญหาเงิน 5,000 บาท เร่งหาทางแก้

ผมทราบดีถึงความกังวลของพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับมาตรการเยียวยา 5,000 บาท และมาตรการอื่นๆ ของกระทรวงการคลัง ผมไม่ได้นิ่งนอนใจและได้สั่งการ เรียกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องให้เข้ามาพบผม เพื่ออธิบายที่มาที่ไปและเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมทราบ ว่าปัญหาเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร

นอกจากเงิน 5,000 บาทแล้ว ช่วยไปติดตามงานของหลายกระทรวงมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเกือบทุกกระทรวงทุกกระทรวงช่วยเหลือเต็มที่โดยภาครัฐจะเข้าไปดูแลกลุ่มเป้าหมาย

นอกเหนือจาก 2 งานหลัก ที่ผมเพิ่งกล่าวไปแล้ว ผมขอพูดถึง อีกหนึ่งหน้าที่ ที่ผมถือว่าสำคัญที่สุดและเป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนต้องมีบทบาทร่วมกันกับผม หน้าที่สำคัญนี้จะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้มากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า เป็นหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานของเรา

ถ้าเราต้องการจะเอาชนะสงครามกับไวรัส COVID-19 ให้ได้ ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริง เราต้องยอมรับจุดแข็ง จุดอ่อน และข้อจำกัดของตัวเอง

ยอมรับว่า ปัญหาความเสียหายที่เกิดจากไวรัส COVID-19 จะแก้ไขได้ ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล กับภาคส่วนต่างๆ และเราต้องยอมรับว่า รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว คงไม่สามารถหาคำตอบให้กับทุกปัญหาได้ คนกลุ่มอื่น และภาคส่วนอื่นๆ ก็อาจจะมีคำตอบที่ดีและมีความคิดที่ดีได้ด้วยเช่นเดียวกัน

วิกฤต COVID-19 ครั้งนี้ ใหญ่และซับซ้อนมาก หน้าที่ของเราจึงต้องต่อสู้ไปด้วยกัน แบบเป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศ เราทุกคน จะต้องเป็นทีมประเทศไทยด้วยกัน เราจะต้องหา ความร่วมมือดึงทุกภาคส่วนของสังคม รวมถึงกลุ่มธุรกิจ ทุกกลุ่ม ทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศ เราต้องการคนเก่ง ที่มีอยู่มากมายในประเทศของเราให้มาร่วมมือกัน

นี่คือ ทีมประเทศไทย ไม่ว่าจะมาจากภาครัฐ จากมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัยต่างๆ มาจากภาคเอกชน กลุ่มมหาเศรษฐี หรือพี่น้องประชาชนที่ยอมเสียสละตัวเองเข้ามาร่วมกันต่อสู้ เหมือนกับที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ร่วมกับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และอาสาสมัครมากมาย ได้เสียสละตัวเองอย่างกล้าหาญ เผชิญความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกวัน เพื่อช่วยรักษาชีวิตของผู้อื่น

ผมทราบว่า หลายภาคส่วนในทีมประเทศไทย ได้เริ่มลงมือทำอะไรที่สำคัญและมีประโยชน์ไปแล้วหลายอย่าง แต่วันนี้ผมต้องการเพิ่มความร่วมมือกับท่านทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้นโดยเริ่มที่ภาคเอกชนก่อน

ส่งเทียบเชิญ 20 เศรษฐีไทย ร่วมแก้ COVID-19

สิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการแรกคือ จะออกจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน ขอให้ท่านเหล่านั้นได้บอกผมว่า ในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสของสังคม ท่านจะร่วมมือกันกับเราอย่างไร ท่านจะช่วยเหลือประเทศไทยของเราให้มากขึ้นได้อย่างไรบ้าง

มหาเศรษฐีของประเทศไทยทั้งหลายล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผมขอให้ท่านได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมช่วยเหลือประเทศด้วยกันกับเรา

ผมเข้าใจและซาบซึ้งที่หลายท่านได้ลงมือทำไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการให้ทุกท่านทำเพิ่มเติมมากกว่าที่ทำไป และผมรู้ว่าทุกท่านเต็มใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด เพราะผมรู้ว่าความเดือดร้อนของคนไทยคือความเจ็บปวดของท่านด้วย

ผมขอให้ทุกท่านได้แบ่งปันความสามารถ และความฉลาดหลักแหลม รวมทั้งมุมมองอันมีวิสัยทัศน์ของพวกท่าน พร้อมกับใช้องค์กรที่มีศักยภาพสูงของท่านมาช่วยกันจัดการกับวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้

หารือเอกชน และผู้เชี่ยวชาญหนุนแนวทางแก้ปัญหา

นอกเหนือจากกลุ่มมหาเศรษฐีของประเทศไทย ผมยังอยากจะรับฟังและใช้ความรู้ความสามารถของภาคเอกชนทั้งหมดด้วย ดังนั้น สิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการที่ 2 คือจะไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดกลางหรือขนาดเล็ก เพื่อรับฟังพวกท่านด้วยตัวผมเอง

ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใด เพื่อให้ผมจะได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง ผมต้องการเข้าถึงความรู้ ขีดความสามารถ และความเชี่ยวชาญอันหลากหลายของภาคเอกชน นอกจากนี้ ผมต้องการรับฟังความความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ความต้องการและความท้าทายที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ ผมต้องการรับฟังว่า พวกท่านต้องการที่จะร่วมมีบทบาทในการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างไร

รวมทั้งสิ่งที่ท่านได้ทำไปแล้ว และสิ่งที่ท่านจะช่วยกันทำต่อไป และที่สำคัญ ผมต้องการได้ยินความคิดเห็นของพวกท่านว่ามีจุดไหนบ้างที่รัฐบาลควรจะทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

แน่นอนว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศ แต่เราสามารถขยายแรงกำลังในการช่วยเหลือให้ใหญ่ขึ้นได้ ด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีทรัพยากรมาก มีวิธีการทำงานและวิธีการเข้าถึงผู้เดือดร้อนได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แม้กระทั่งในกลุ่มผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้วยกันเองก็ยังมีมุมมองการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน

ผมอยากจะรับฟังทุกท่านเพื่อช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ผมเชื่อว่าความคิดเห็นของท่านทั้งหลาย แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ล้วนเกิดจากความรักชาติและความปรารถนาดีต่อประเทศทั้งสิ้น

และเมื่อเราเลือกที่จะปฏิบัติทางใดทางหนึ่งแล้ว ขอให้ทุกคนร่วมมือกันสนับสนุน เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จตามที่เราต้องการ ผมขอให้พวกเราทุกคนทำงานร่วมกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน

ขอทุกคนไม่แบ่งฝ่าย ร่วมสู้ไวรัสด้วยกัน

ในช่วงเวลาที่ประเทศของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขอให้พวกเราทุกคนได้ร่วมกันแสดงพลังของความเป็นไทยออกมาอีกครั้ง ให้โลกได้เห็นว่าพวกเราคนไทยได้ร่วมมือช่วยเหลือกัน และต่อสู้ไปด้วยกันโดยไม่มีสีเสื้อ และไม่มีฝักมีฝ่ายทางการเมือง

ในอนาคตเมื่อมองย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากและความเสียหายมากมาย แต่ด้านหนึ่งเราจะเห็นว่านี่คือช่วงเวลาที่เราได้อะไรที่ยิ่งใหญ่คืนมา นั่นคือเราได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของคนไทยอีกครั้ง และได้ค้นพบความกลมเกลียวเป็นครอบครัวเดียวกัน

ผมมีความหวังแบบนั้น และผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็มีความหวังแบบนั้นเช่นกัน ผมขอให้ทุกคนมาร่วมมือกันทำให้ความหวังของพวกเราเป็นความจริง เราจะต้องชนะไปด้วยกัน