เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ในขณะที่แต่ละครอบครัวล้วนมีปัญหาที่ต้องเผชิญแตกต่างกันไป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในปัญหาเลวร้ายที่นำมาสู่จุดสิ้นสุดของชีวิตคู่ของคู่รักจำนวนมาก เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของการนอกใจ ที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ทำให้มีคนที่ต้องเจ็บปวดใจอยู่เสมอ เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดที่ชายวัย 48 ปี รายหนึ่ง นำมาเปิดเผยผ่านรายงานของเว็บไซต์เดอะซัน เพื่อระบายความอัดอั้นและความแค้นใจที่ได้รับ หลังจากได้รู้ความจริงว่าถูกภรรยาวัย 43 ปี สวมเขา แถมชายชู้รายนั้นยังไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นหนุ่มน้อยเพื่อนสนิทของลูกชาย

ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่แตกหักกันทั้งบ้าน เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สามีต้องเดินทางไปทำธุระที่อื่น โดยฝ่ายชายเปิดใจว่า เขากับภรรยาแต่งงานกันมานาน 25 ปีแล้ว และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 18 และ 22 ปี ที่ผ่านมาภรรยาของเขาก็มีท่าทีเจ้าชู้นิด ๆ และชอบแกล้งหยอดคำพูดจีบ ๆ ใส่เพื่อนของลูกชายที่มาเยี่ยมบ้าน ซึ่งเด็ก ๆ ก็มักจะเห็นเป็นเรื่องตลก และเขาก็ไม่ได้คิดมากอะไรกับเรื่องนี้ จนกระทั่งช่วงปลายปี 2562 อยู่ ๆ ลูกชายคนโตก็ดูมีท่าทีห่างเหินกับแม่ โดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ตอนที่เขาไปถามลูกชายในเรื่องนี้ ก็ได้รับเพียงคำตอบว่า “ผมไม่อยากพูดถึงมัน”

จากนั้นลูกชายคนเล็กก็เริ่มมีท่าทีเย็นชากับแม่เหมือนกัน เขาเลยคิดว่าคงเป็นเพราะฮอร์โมนของพวกเด็ก ๆ เท่านั้น ทุกอย่างเลยถูกปล่อยผ่านมา จนกระทั่งเย็นวันหนึ่ง ลูกชายคนโตของเขากลับมาบ้านพร้อมกับแผลบนหน้าและรอยช้ำรอบตา เหมือนถูกชกมา เขาเลยพยายามถามว่าใครเป็นคนทำ ลูกชายดูหัวเสียมาก และยอมบอกว่าเป็นฝีมือเพื่อนสนิทวัย 22 ปี ที่โตมาด้วยกัน แต่ตอนที่เขากำลังจะถามอะไรลูกเพิ่มนั้น อยู่ ๆ ภรรยาของเขาก็ตะโกนบอกว่า “ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะน่า”

ดังนั้น เขาเลยถามภรรยาแทนว่ารู้เรื่องอะไรหรือไม่ แน่นอนว่าเธอปฏิเสธ แต่เขาก็พอจะรู้ว่าเธอกำลังโกหก และตอนที่ถึงเวลาเข้านอน อยู่ ๆ ภรรยาก็ยอมสารภาพว่าเธอแอบมีเซ็กส์กับเพื่อนสนิทของลูกชาย เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นตอนที่เพื่อนของลูกชายคนโตโทร. มาที่บ้าน ตอนที่เขาเดินทางไปทำงานต่างเมือง หลังจากนั้นภรรยาของเขาก็ชวนเด็กคนนั้นมาที่บ้าน เปิดไวน์ดื่มกัน และบอกเด็กหนุ่มคนนั้นว่าเธอรู้สึกเหงาเหลือเกิน จนสุดท้ายทั้ง 2 คนก็ลงเอยด้วยการมีเซ็กส์กันในบ้าน

ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ลูกชายคนโตเกิดจับได้ เห็นได้ชัดว่าเขารังเกียจสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่อาจแบกรับเรื่องนี้ไว้คนเดียว เลยนำไปปรับทุกข์ให้ลูกชายคนเล็กฟัง ด้วยเหตุนี้ลูก ๆ เลยพากันทำตัวเหินห่างกับแม่ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกโกรธเกลียดในการกระทำของภรรยา และไม่อาจทนมองดูเธอได้อีกต่อไป แม้ว่าเธอจะพยายามขอโทษต่อสิ่งที่ทำลงไป แต่เขายอมรับว่าทุกสิ่งไม่อาจหวนมาคืนได้อีกแล้ว เขาขอให้เธอออกจากบ้านไปและรอใบหย่า แต่เธอยังพยายามวิงวอนขอไม่ให้ไล่เธอออกจากบ้าน ทั้งนี้ เขารู้สึกเป็นทุกข์อย่างมากที่ครอบครัวแสนสุขได้พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี แถมยังต้องติดอยู่กับความอึดอัดใจในช่วงที่ถูกล็อกดาวน์อยู่ด้วยกัน แต่ก็ไร้ทางออกต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้