เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“บิ๊กแป๊ะ” ควันออกหู ตำรวจฝ่าเคอร์ฟิวเสียเอง ซุกหน้ากากอีก 7.5 พันชิ้น

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ควันออกหู สั่งผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดตรวจสอบอย่างละเอียด หลัง ส.ต.อ.เมืองร้อยเอ็ด โดนรวบคาด่าน ขับเก๋งฝ่าฝืนเคอร์ฟิว แถมบ่ายเบี่ยงเรื่องหน้ากากอนามัย 7,500 ชิ้นที่ขนมา อ้างจะนำไปให้ญาติใช้งานศพ

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 พล.ต.ท.ปิยะ อุมาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด โดยออกนอกเคหสถานในเวลาห้าม ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย. เวลาประมาณ 23.50 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจคัดกรองการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถนนโพนทอง-กุฉินารายณ์ หมู่ที่ 3 ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล มี ส.ต.อ.พิทักษ์ พลโยราช อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เป็นผู้ขับขี่ โดยมีภรรยานั่งโดยสารคู่มาด้วย เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้หยุดและขอทำการตรวจค้นภายในรถพบ หน้ากากอนามัย 3 ลัง จำนวน 7,500 ชิ้น สอบถามเบื้องต้น ส.ต.อ.พิทักษ์ ให้การว่าตนและภรรยาเดินทางมาจากจังหวัดมุกดาหารและกำลังจะกลับที่พักในตัวจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงที่มาของหน้ากากอนามัย แต่ ส.ต.อ.พิทักษ์ ให้การบ่ายเบี่ยง จึงได้ตรวจยึดหน้ากากอนามัยไว้เป็นของกลาง จับกุมตัวส.ต.อ.พิทักษ์ และภรรยา นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบเรื่องแล้วและได้สั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดให้ตรวจสอบโดยละเอียดถึงที่มาของหน้ากากอนามัย และมูลเหตุจูงใจในการกระทำความผิด รวมถึงเคยกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาก่อนด้วยหรือไม่ หากพบความผิดให้ดำเนินคดีทุกข้อหา เช่น ความผิดเกี่ยวกับการมีสินค้าควบคุมไว้ในครอบครองเกิน กำหนด หรือการกระทำผิดที่มีลักษณะเป็นขบวนการหรือไม่ นอกเหนือจากความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้ว รวมทั้งให้พิจารณาโทษทางการปกครองและวินัยอย่างถึงที่สุดเพื่อไมให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปด้วย

“ผบ.ตร. ได้สั่งการไปยังข้าราชการตำรวจทุกนาย โดยจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชนและหน่วยงานอื่นในการเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย หากพบข้าราชการตำรวจกระทำผิดเสียเองจะลงโทษสถานหนัก ทั้งนี้ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้กวดขัน ความประพฤติและระเบียบวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชา ตามนัยคำสั่งตร.ที่ 1212/2537 อีกด้วย” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวย้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร ผกก สภ.โพนทอง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ส.ต.อ.พิทักษ์ ได้ขนหน้ากากอนามัย จำนวน 7,500 ชิ้น มาจาก จ.มุกดาหาร โดยมุ่งหน้า อ.โพนทอง โดยใช้รถเก๋งในการขนย้าย เมื่อมาถึงจุดตรวจ จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ พบแผ่นป้ายวงกลมไม่ตรงกับทะเบียนและเสียงท่อแต่งซิ่ง ก่อนขอตรวจค้นภายในรถพบหน้ากากอนามัยยี่ห้อ TPRO MASK 4 จำนวน 3 ลัง (7,500 ชิ้นดังกล่าว)

โดยส.ต.อ.พิทักษ์ ให้การว่าได้รับหน้ากากอนามัยมาจากผู้ค้าคนหนึ่งในพื้นที่ จ.มุกดาหาร โดยอ้างว่าจะนำหน้ากากอนามัยจำนวนดังกล่าวไปให้ญาติใช้ในงานศพ

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา 1. ออกหนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ 2. การนำของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีอากร หรือของที่ควบคุมการนำเข้าหรือของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาหรือส่งออกไปนอกประเทศไทย 3. ติดป้ายทะเบียนไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาตจดทะเบียนรถ

ส่วนกรณีหน้ากากอนามัยจำนวน 7,500 ชิ้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นหน้ากากอนามัยที่ผลิตในประเทศเวียดนาม อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกรมการค้าภายใน ว่าผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนจำหน่าย ได้รับอนุญาตให้นำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศหรือไม่ เพื่อจะได้ส่งผลการตรวจสอบให้กับพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.