เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ศูนย์ EOC สุวรรณภูมิเผยกลุ่มผู้โดยสารเมินคัดกรองรายงานตัวแล้ว 69 ราย ขู่เผยชื่อก๊วนที่ขัดขืน ฟันฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.สาธารณะสุข

ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน EOC ท่าอากาศยาสุวรรณภูมิ เผยผู้โดยสารเที่ยวบินต่างประเทศที่เมินขั้นตอนการคัดกรอง กลับมารายงานตัว 61 คน อีก 8 คนรายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมในต่างจังหวัดแล้ว ผบช.ตม.เตรียมเผยรายชื่อกลุ่มที่ไม่ให้ความร่วมมือ ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.สาธารณะสุข โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท

จากกรณีมีผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางกลับจาก ประเทศ ญี่ปุ่น รวม 3 เที่ยวบิน จำนวน 103 คน การ์ต้า 11 คน และ สิงคโปร์ 44 คน รวมทั้งหมด 158 คน เมื่อคืนที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา และไม่ยอมกักตัว 14 วัน ตามมาตรการ state quarantine ได้ทยอยเข้ามารายงานตัว ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน หรือ EOC ส่วนผู้โดยสารอีก 6 คน มารายงานตัวแล้วเมื่อคืนนี้ หลัง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. ขีดเส้นตายให้มารายงานตัวภายในเวลา 18.00 น.

ล่าสุดวันนี้( 4 เม.ย.)เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยาสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เดินทางมายังท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบจุดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน หรือ EOC

โดยศูนย์ EOC ตั้งอยู่บริเวณ อาคารผู้โดยสารขาออก ประตู 9 มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะบันทึกรายชื่อผู้เข้ามารายงานตัว ก่อนนำตัวขึ้นรถไปกักตัว ที่โรงแรมใกล้เคียง สำหรับผู้โดยสารกลุ่มที่ 2 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด หากเดินทางถึงภูมิลำเนาแล้ว ให้รายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่ศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษ

พล.อ.พรพิพัฒน์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. มีผู้มารายงานตัวทั้งหมด 61 คน และในต่างจังหวัด 8 คน ที่เข้ามารายงานตัวที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมประจำจังหวัดแล้ว ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างจะไปด้วยมาตรฐานที่ได้วางไว้ แต่เมื่อวานนี้ ยอมรับว่า อาจไม่ราบรื่น เพราะบางกระบวนการ ผู้โดยสารรอคอยแบบนานกว่าปกติ เนื่องจากต้องจัดหมวดหมู่ เพื่อนำไปสู่สถานกักกันโรค ผู้โดยสารทั้งหมด ได้รับความสะดวกและราบรื่นในกระบวนการคัดกรอง

พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า เตรียมเปิดเผยรายชื่อ ผู้ที่ไม่มารายงานตัวภายใน 18.00 น.วันนี้ ให้สังคมรับรู้ ในกฎหมายจะถูกดำเนินคดี ในฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.สาธารณะสุข โดยมีอัตราโทษ จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกับย้ำ ว่ารายชื่อทั้ง 152 คน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว หากพ้นเวลา 18.00น.ของวันนี้ ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศบังคับกฎหมายอย่างจริงจัง พร้อมเปิดรายชื่อผู้โดยสารจาก 20 จังหวัด ที่เดินทางในเที่ยวบินนี้ หากไม่มารายงานตัว

ส่วนนายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า กระแสข่าวว่ามีผู้โดยสาร 3 คน มีอาการไข่สูงหลบหนีไปกับกลุ่ม 152 คน นั้น ขณะนี้บางคนได้ติดต่อกลับเข้ามารับการกักตัว 14 วันตามขั้นตอนแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ติดต่อเข้ามาก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนใกล้ชิดและผิดกฎหมาย จึงขอให้ความร่วมมือ พร้อมกันนี้ฝากถึงญาติพี่น้อง ไม่ต้องมารอรับ ให้ประสานพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และโซเซียลมีเดียเท่านั้น

ส่วนข้อกังวลของผู้ที่ถูกกักนั้น ขอยืนยันว่า ได้มีการแยกผู้ที่มีเข้าข่ายอาการป่วยออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะพาไปสถานกักโรคที่จัดเตรียม ซึ่งมาตรฐาน 1 ห้อง จะให้พักได้ 2-3 คน โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งโมเดลเดียวกับการกักตัวของผู้ที่เดินมากลับมาจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านการท่าอากาศยาน ได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของหลุมจอดเครื่องบิน โดยให้มีการใกล้พื้นที่คัดกรองมากที่สุด รวมถึงอำนวยความสะดวกในเรื่องของกระเป๋า และบริการขึ้นรถที่จัดเตรียมไว้ โดยกระทรวงคมนาคม ขสมก.จัดรถไว้บริการนำไปสถานกักโรคที่เตรียมไว้