เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ที่ห้องประชุม สภ.เมืองบุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ นพ.วิทิต สฤษฏีชัยกุล สารธารณสุขจังหวัด พร้อมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมแถลงจับกุมชาวต่างชาติวัย 47 ปี ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจาก 4 ประเทศที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รุนแรง (เกาหลี จีน อิตาลี และอิหร่าน)

หลังจากมีชาวบ้านในหมู่บ้านจิระนคร แจ้งเบาะแสว่า ชายชาวต่างชาติคนดังกล่าว ได้เข้ามาอยู่ห้องพักของภรรยาใน จ.บุรีรัมย์ แล้วไม่ยอมกักตัวเอง ยังออกไปในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าตัวยอมรับว่าเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และเมื่อมาถึงบ้านภรรยาที่บุรีรัมย์ ได้ออกไปในที่สาธารณะจริง แต่ไม่ได้ลงจากรถและมีใบรับรองแพทย์จากประเทศต้นทางแล้ว

นายธัชกร กล่าวว่า จากการสอบประวัติในแอปพลิเคชั่นของบุรีรัมย์ “Buriram Healthy Passport” ชายต่างชาติคนนี้ ได้เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ทางสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 09.00 น. และได้เดินทางต่อไปที่พัทยา เพื่อเช่ารถ พักค้าง 1 คืน ที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นวันที่ 20 มี.ค.เวลาประมาณ 06.00 น.ได้ขับรถเช่าเดินทางมา จ.บุรีรัมย์ ถึงเวลาประมาณ 13.00 น.และเข้าพักอพาร์ตเมนต์ซึ่งเป็นที่พักของภรรยา จากการซักประวัติพบว่า ในระหว่างที่เข้าพักได้ออกจากห้องพักในช่วงเย็นเป็นบางวัน และในวันที่ 22 มี.ค.ได้เดินทางไปที่สาธารณะกับภรรยาแต่ไม่ได้ลงจากรถ ซึ่งแสดงเห็นว่าชาวต่างชาติรายนี้ ไม่ได้ปฏิบัติตัวในการกักกันตัวเองเพื่อเฝ้าระวังอาการ 14 วันในที่พักอย่างเคร่งครัด

“ต้องขอโทษชาวต่างชาติ ที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาดในภาวะโรคระบาด รวมถึงคนที่ให้ที่พักพิงที่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ก็จะโดนดำเนินคดีไปด้วย จึงอยากจะฝากเตือนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เดินทางมาจาก กทม.และจังหวัดปริมณฑล เมื่อมาถึงบ้านให้กักตัวในพื้นที่จำกัดเป็นเวลา 14 วัน ถ้ายังฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ฐานผิด พรบ.ว่าด้วยโรคติดต่อ” นายธัชกร กล่าว

ด้าน นพ.วิทิต สฤษฏีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ผู้ที่กลับมาจาก กทม.และปริมณฑล ก็จะมีสภาพคล้ายกัน คือมาจากพื้นที่กลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะต้องใช้กฎหมายข้อเดียวกัน คือจะต้องรับโทษตาม พรบ.ว่าด้วยโรคติดต่อ เช่นเดียวกับชาวต่างชาติรายนี้ ตามมาตรา 34 มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ถึงแม้ชายชาวต่างชาติคนนี้จะมีใบรับรองแพทย์มาด้วยก็ตาม จะต้องมานับ 1 ใหม่ที่บุรีรัมย์