เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รายการโหนกระแส ที่มีคุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ได้เชิญหมอธีระวัฒน์เป็นแขกรับเชิญ มาพูดคุยในประเด็นที่ว่า ปิดเทศ21วัน สู้โควิด-19 ได้จริงหรือ?

ได้ฉายาว่าหมอดื้อ?

“คงพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม และมีหลักฐานชัดเจน”

เวลามีการประชุมในเรื่องโควิด-19 กับภาครัฐอาจารย์ก็เข้าด้วย อาจารย์จะรู้ความเป็นมาเป็นไปว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว?

“ในความเป็นจริงต้องเข้าใจว่าทางผู้บริหารไม่ทราบเรื่องเทคนิคัล สองในผู้ให้คำปรึกษา อาจจะไม่ได้ทราบเรื่องที่แท้จริง ไม่ทราบธรรมชาติของโรค และไม่ตระหนักการแพร่ตรงนี้ ที่สำคัญมันผิดฝาผิดแผกไปหมดตั้งแต่เริ่มต้นที่ว่าโรคนี้ไม่น่ากลัว เป็นเหมือนไข้หวัดธรรมดา เหมือนไข้หวัดใหญ่ สักพักก็กลายเป็นโรคประจำฤดูกาล ฉะนั้นลักษณะที่บอกอย่างนี้ทำให้หลายๆ ประเทศบรรลัย เหมือนอู่ฮั่นครั้งแรกสุด บอกว่าโรคไม่น่ากลัว พอบรรลัยเรียบร้อยก็เริ่มตื่นตัว ปิดประเทศและปิดบ้าน ผมเรียนย้ำว่าวิธีการปิดในลักษณะนี้ลักษณะแบบนี้ มีประเทศบรรลัยไปเรียบร้อย อย่างอิหร่าน อังกฤษ หรืออิตาลี กรณีอย่างนี้ประเทศไทยเราใช้ศัพท์เตรียมเต็มเหนี่ยว จนปัจจุบัน  ณ ขณะนี้เอาไม่อยู่ แน่ๆ ถ้าไม่มีความเด็ดขาด ผมเรียกว่ารัฐบาลตระหนกที่มีการแพร่ในสนามมวย แพร่ในผับ ที่ทำให้ตัวเลขสูงขึ้น ซึ่งจริงๆ ตรงนี้เราคาดว่าต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เพราะที่ใดก็ตามที่มีการชุมนุม ตรงนี้แพร่ได้เร็ว และไม่จำกัดว่าต้องเป็นคนแข็งแรง หรือคนแก่ มันก็ติดได้เท่ากัน”

ในหลายเทป อาจารย์พูดถึงเรื่องนี้ว่าต่อไปต้องเป็นแบบนี้ น่ากลัวกว่าไข้หวัดใหญ่และติดง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่ 3 เท่า และมันก็เป็นแบบนั้น เมื่อวาน 146 ราย วันนี้มาอีก 30 มันจะ 30 ทุกวันมั้ย?

“ทางการพยายามลดตัวเลขตรงนี้ โดยการทำมาตรการกลางซอย ไม่สุดซอย คือลดหรืออาจปิดสถานบันเทิง มหรสพต่างๆ หรือไม่ให้มีการชุมนุม ประชุม หรือแม้แต่เลื่อนสงกรานต์ การเลื่อนลักษณะนี้หรือปิดแบบนี้ต้องไม่ลืมว่าเปลี่ยนวิถีชีวิตคนปกติประจำวัน คนยังออกไปทำงานแบบเดิม โดยสารรถเมล์ แท็กซี่ รถประจำทาง หรือรถใต้ดินต่างๆ ซึ่งแออัด กระบวนการเหล่านี้โดยเฉพาะการเลื่อนวันสงกรานต์ เป็นการชะลอเพื่อปะทุใหม่ ตัวเลขอาจลดลงก็ได้ แต่สถานการณ์ตรงนี้ไม่ได้มีมหรสพ สนามมวย สถานบันเทิง แล้วถามว่าเมื่อไหร่จะเปิดสถานบันเทิงได้ใหม่ สนามมวย สงกรานต์จะเลื่อนไปอีกกี่ปี เพื่อให้มีสงกรานต์ใหม่ การปิดจริงๆ เหล่านี้เพื่อให้ประเทศกลับคืนเหมือนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว”

หุ้นไม่เคยร่วงขนาดนี้ แสดงว่าหนักมากแล้ว?

“การที่เรียกว่าใช้มาตรการให้ถูกต้อง ไม่ใช่ยาแรง ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวมาเร็วที่สุด ถ้าปิดบ้านก็เข้าใจ ไม่ใช่หลายคนไม่ได้ทำงาน แต่ปิดบ้านคือคนที่ออกไปทำงาน สมมติมาทำงานที่ห้องส่งงานบริการ สาธารณะ เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค ก็ออกจากบ้านไปทำ แต่คนไม่จำเป็นต้องออกก็ไม่ต้องออกคนออกจากบ้านคือคนมีกิจธุระต้องทำอย่างเต็มที่ เมื่อออกจากบ้านไปซื้อของใช้แล้วรีบกลับมา และป้องกันตัวสูงสุด คือมีหน้ากาก ห้ามไปเจ๊าะแจ๊ะไปพบปะสังสรรค์เด็ดขาด ให้รีบกลับมาบ้าน ถ้าทำได้อย่างนี้ ทั่วประเทศใน 21 วัน”

ทำไมต้อง 21 วัน?

“มีเหตุผล ถ้าสมมติว่าผมได้รับเชื้อ ระยะฟักตัวคือ 14 วันเพื่อให้มีการแสดงอาการ อย่างผมสูงวัยแบบนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะอาการหนัก พออาการหนักก็อยู่บ้าน ก็พาไปรพ.เพื่อรักษา แต่ขณะเดียวกันอาการนิดเดียวก็แยกตัวอยู่บ้าน แม้จะรู้หรือไม่รู้ก็ตามแต่ ขณะเดียวกันที่มีการรายงานวันที่ 11 ถ้ามีอาการน้อยจะสามารถปล่อยไวรัสได้ 21 วัน”

อาการน้อย ปล่อยไวรัสได้ 21 วัน แล้วอาการมาก?

“ปล่อยได้เรื่อยๆ ตราบใดที่มีอาการหนักอยู่ ถ้าเรามีอาการหนักก็ถูกพักตัวที่รพ. ไปจัดการรักษาเพื่อไม่ให้ปล่อยต่อ แต่อาการน้อยอยู่ได้ 20 วัน ถ้าเราปิดบ้าน ขังตัวอยู่ในบ้าน อาการน้อยก็เฉลี่ย 21 วันก็เหมาะสม ถ้ากระเด็นเล็ดลอดไปบ้างก็คงไม่เป็นไร หลังมาตรการนี้ก็ต้องรักษาระยะห่าง แต่กระบวนการดำเนินชีวิตจะเริ่มทำได้ตามปกติ แต่ต้องรักษาระยะห่าง”

คำว่าล็อกดาวน์ประเทศ ปิดประเทศจำเป็นต้องใช้?

“ในมุมของหมอ ณ ขณะนี้เหตุผลจำเป็นที่ต้องปิดบ้าน ถามว่า 1 รพ. ถ้ามีคนไข้ที่เป็นโควิต้องเข้ารพ. 10 คน พร้อมหรือยัง ที่บอกว่ามีเตียงคนไข้แสนเตียงนั้นคือมีคนนอนเรียบร้อย ห้องความดันลบมี 100 กว่าเตียง ขณะเดียวกันคนก็บอกว่าห้องความดันลบไม่จำเป็น เพราะถ่ายทอดทางละอองฝอย แต่คนพูดเช่นนั้นไม่รู้เรื่อง เพราะห้องความดันลบออกแบบเพื่อกันไม่ให้มันออกมาข้างนอก คนอยู่ในห้องความดันลบอาจต้องดูดเสมหะ หรือเจ็บป่วยมากขนาดต้องใส่ท่อหายใจ ก่อให้เกิดละอองฝอยขนาดเล็กกว่าธรรมดา ฉะนั้นห้องความดันลบแบบนี้มีอยู่ 100 กว่าห้อง และห้องตกแต่งดัดแปลงสักพัน ถามว่าห้องเหล่านี้กระจัดกระจายไปอยู่ตามรพ.ต่างๆ ถามว่าถ้าวันนี้รพ. นึงมีเข้ามา 10 คน วันนี้เดี๋ยวนี้เลย พร้อมหรือไม่ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องช่วยหายใจ  ชุดสวมพร้อมหรือยัง อุปกรณ์เครื่องมือเตียงเครื่องช่วยหายใจ ถ้าเราปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในรพ. แสดงว่ามันบรรลัยเข้าไปในระบบสาธารณสุข ถ้าไม่อยากให้ประเทศเราบรรลัย ไม่อยากให้บุคลากรสาธารณสุขติดเชื้อ และคนไข้ตามปกติ เป็นโรคหัวใจ อัมพฤกษ์ โรคปอด ฉะนั้นมันไม่ได้กระทบแค่โรคนี้โรคเดียว แต่กระทบคนอื่นที่เป็นทุกโรคด้วย มาตรการวันนี้ต้องรีบทำ ถ้าประกาศวันนี้ไม่ให้ออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น”

ปิดประเทศ คนต่างประเทศเข้ามาไม่ได้ เราออกไม่ได้ สองคนที่ทำงานให้ทำอยู่ที่บ้าน นอกจากงานบริการ สามรักษาคนที่ป่วยอยู่ให้กลับมาเหมือนเดิม ทุกอย่างจะคลีนใน 21 วัน?

“มันอาจไม่คลีน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามีมาตรการเข้มข้น ต้องไม่ลืมว่าประเทศจีนพินาศทั้งประเทศ แต่กลับมาได้ใน 3 อาทิตย์ ภายในระยะเวลาแค่ 1 ธ.ค. จนปัจจุบันกลายเป็นประเทศสะอาดที่สุด และคนอื่นจะเข้าจีนต้องมีการกักตัว 14 วัน”

ยอมตัดแขนตัวเองเพื่อรักษาชีวิต?

“ขณะนี้จริงๆ เรายังไม่ได้บรรลัยถึงขนาดนั้น ขณะนี้เราไม่ต้องรอให้มันเจ๊งขนาดนั้น เราดักไปล่วงหน้าก่อน ที่ไต้หวันเอง ประเทศจีนเกิดแบบนี้เขารีบดักหน้าก่อน ฉะนั้นไต้หวันก็สง่างาม มีประธานาธิบดีเป็นผู้หญิง ทำไมเราไม่ทำแบบนั้นบ้าง”

วันนี้ทันมั้ย?

“วันนี้ทัน จริงๆ ตรงนี้ถ้าสามอาทิตย์นี้พอฉลองสงกรานต์ได้ ก็ไม่ต้องเลื่อนสงกรานต์ แต่ถ้าไม่ทำมาตรการแบบนี้ หมายถึงเลื่อนสงกรานต์ไปไม่รู้กี่ปีเพื่อให้มาเล่นสาดน้ำกัน เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าขณะนี้โรคเข้ามาอยู่ใกล้ขนาดไหน”

ถ้าวันนี้ยังเงื้อแต่ไม่ลง อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป?

“ทุกประเทศที่เกิดเรื่อง ขณะที่มีจำนวนผู้ป่วยเกิน 130 มันจะพุ่งมาเลย ถ้าเรารอให้ถึงขณะนั้น จะปรับตัวไม่ทัน หมายถึงห้องผู้ป่วย อุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้เรียนให้ทราบตั้งแต่ต้น แม้แต่กทม.เองก็ตาม ประกาศว่ามีเตียงในสังกัดกทม. 170 เตียงเท่านั้น ถ้ามีคนไข้เดินเข้ามาเรื่อยๆ เอาแค่วันละ 3 ก็พอ ขณะนี้รพ.บำรุงราศนราดูรเหมือนเป็นสนามรบเรียบร้อย 70 เตียงเต็มหมด เมื่อคนไข้ผู้ต้องสงสัยเข้ามาต้องมีพื้นที่ให้เขาอยู่ห่างๆ กัน ต้องรอตั้งแต่ 6-24 ชม. เพื่อประกาศว่าติดหรือไม่ติด ถ้าติดก็ไปห้องที่พออาการเบา แต่ว่าเมื่อไหร่อาการหนักต้องย้ายไปที่อื่น”

ไทยถึงจุดพีคหรือยัง?

“เพิ่งจะเริ่มเอง อย่างที่คุยกัน ตอนนี้เพิ่งเงยหน้าเอง”

จะมีสิทธิ์เป็นเหมือนอิตาลีมั้ย?

“ถ้าเราไม่อยากให้เหมือนอิตาลี เรามีตัวอย่างเรียบร้อย จีนเตือนเรามาตลอด จีนเตือนอิตาลี เตือนอังกฤษตลอดให้ทำอะไร แล้วก็ไปหัวเราะเขา ไม่ใส่หน้ากาก ต่างๆ นานา นี่คือสิ่งที่เขาเตือนมาตลอด อยากพูดว่าสมน้ำหน้าแต่สมน้ำหน้าไม่ได้ เพราะนี่คือชีวิตคน เขาเตือนเราแล้ว ตรงนี้ก็เตือนอีกให้เห็นชัดๆ เลย อังกฤษบอกว่าถ้ามีอะไรอยู่บ้านไป ถ้าเป็นมากให้เรียกมารับตัว ถ้าเรายอมให้เกิดอย่างนั้น แต่ขณะนี้ถ้าทำเดี๋ยวนี้ยังไม่สาย ผมเชื่อว่าเราประกาศปิดบ้านในลักษณะอย่างนี้ คนจะมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ที่คุณนิติพงษ์บอกว่าจริงๆ แล้วสงสารท่านนายกฯ แต่ถ้าที่ปรึกษาอนุบาลขนาดนี้ กลับไปอยู่บ้านดีกว่า ถ้าที่ปรึกษาต้องการเอาใจรัฐบาล เพราะกลัวเสียเศรษฐกิจ กลัวเสียอะไรต่างๆ ทำไมไม่ทำแบบสิงคโปร์ เขาคุมเข้าที่สุดเลย เขาไม่สนใจว่าตรวจหาคนติดเชื้อได้เท่าไหร่ ขณะที่ประเทศจีนไม่สนใจเลยว่าเขาพบผู้ป่วยใหม่โดยการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อให้รู้ว่าเป็น วันเดียวเพิ่มขึ้น 13000 ราย แต่ 13000 เขาหมดจดเลยนะ เขาหาผู้ติดเชื้อ แพร่เชื้อได้หมดเลย อีก 3 อาทิตย์เป็นประเทศสะอาด เราอยากเป็นประเทศสะอาดแบบจีน หรือไต้หวนหรือไม่ นี่จุดสุดท้ายแล้ว ถ้าปล่อยให้เนิ่นนาน เชื้อจะเลื้อยไปเงียบๆ คนแข็งแรง ไม่มีอาการ ผับปิดก็กินเหล้าในบ้านกับพรรคพวก แต่ขณะเดียวกันไปร้านอาหาร ไปขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถเมล์ รถแท็กซี่ ตอนนี้มีมาตรการในไฟฟ้า ใต้ดิน รถทัวร์หรือยัง ชีวิตจริงไม่ว่าจะปิดสถานเริงรมย์ แต่คนยังใช้ชีวิตปกติ เชื้อจะเลื้อยไปเรื่อยๆ มันไม่ตอบโจทย์ ถ้าหวังว่าจะซื้อเวลาไปว่าวันนี้  30 พรุ่งนี้ 10 เราตรวจไม่ไหว”

ต้องเกาให้ถูกที่ ทำแบบนี้ไม่ตรงจุดประสงค์ ต้องเคลียร์ 21 วันหรือ 1 เดือนไปเลย?

“ถูกต้อง ตอนนี้ยกตัวอย่างอุทัยธานี หรือบุรีรัมย์ ถ้าเขาปิดบ้านด้วยเขาจะสะอาด ถ้าประเทศไทยไม่ทำแบบนั้น ประเทศสกปรกหมดเลย เหลือสะอาดอยู่ 2 เกาะ จะเหมือนหนังผีดิบซอมบี้ ที่เหลืออยู่ 2 เกาะ คนเข้าเมืองไม่ได้ คนออกก็ไม่ได้ เพราะออกไปแล้วติดอีก แต่ทำอย่างนี้สองเมืองไม่ได้ ถ้าจะทำให้ประเทศสะอาด ให้เศรษฐกิจกลับมาทันทีทันใด ตองทำทั้งประเทศ ทุกจังหวัด”

ค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผมไปตรวจมา 5 พันกว่าบาท คนส่วนใหญ่ไม่มีเงินไปตรวจ แล้วเขาเป็น ตรงนี้เป็นการเพิ่มตัวเลขหรือเปล่า?

“ตรงนี้เป็นจุดบอดและทำให้เราไม่ได้ตัวเลขจริง ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงต้องตรวจเป็นแสนถึงจะรู้ตัวเลขจริง ซึ่งจะใช้เงินไปเยอะมาก สำหรับตรวจคนแสนคน แต่ถ้าปิดบ้าน ถ้าเป็นก็ไม่ได้ว่า แต่ถ้าไม่ปิดคนก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ปิดบ้าน 21 วัน ขณะนี้ คนที่นอนอยู่ที่รพ. ก็มีญาติมาเยี่ยม และญาติอาจมีอาการน้อยนิดแต่แพร่เชื้อได้ วัดไข้แล้วไม่ขึ้น ไปเยี่ยมคนป่วยก็เอาเชื้อไปให้คนป่วยที่รพ. หมอมาเยี่ยมคนป่วยรายนั้นซึ่งอาจผ่าหัวเข่าเท่านั้นเองแล้วติด หมอเดินไปดูคนไข้ 30 คนในวอร์ด ก็เท่ากับติดไปทั้งรพ. เราแยกไม่ได้ว่าใครติดไม่ติด ขณะเดียวกันต้องทำอย่างยิ่งแต่ทำไม่ไหว คือต้องแยกรพ.ธรรมดาออก ให้มีรพ. สำหรับคนติดเชื้อโควิดนี้โดยเฉพาะ อย่างรพ. ไหนขาดทุนก็เอามาให้เช่า ขณะเดียวกันหาโรงแรมที่กิจการไม่ดี ก็ใช้ห้องในโรงแรมกักตัว ถ้าเป็นมากก็เอาไปส่งรพ.ที่รักษาได้เลย อีกประการ ยาที่ใช้ขณะนี้ ยาที่มีประสิทธิภาพที่ต้องการ มีอยู่แค่ 600-700 คนเท่านั้นทั่วประเทศ ถ้าเราใช้ยาที่มีอยู่ในมือไม่เก่ง ขณะนี้ทางการพยายามหามาจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ถ้าหากเรามี 700 คนเท่านั้นเอง และเต็มไปหมดที่นั่นที่นี่ ขณะนี้ถ้าเป็นน้อยก็อยากได้ยา เป็นมากก็อยากได้ยา แต่ก็สายไปแล้ว เพราะไวรัสไปแต่ปอดพังเรียบร้อย ซึ่งเมื่อตีห้าเราได้คิดมาตรการเรียบร้อยแล้วว่าจุดไหนที่จะใช้ยา หรือจุดไหนอาการน้อย ปานกลาง อาการมาก เราก็ส่งแผนปฏิบัติการนี้ ขณะนี้กำลังออกมาและคิดว่าจะนำจ่ายทั่วประเทศให้ใช้หลักการนี้”

ยืนยันว่าขอแค่ 21 วันทุกอย่างจะกลับมาดี ขอให้ล็อกดาวน์ประเทศ?

“ครับ ขณะที่ล็อกดาวน์อยู่ที่บ้าน จะมีหน่วยส่งกำลัง อยากเอาเงินชิมช็อปใช้ต่างๆ ก็เอาเงินมาให้คนทางบ้านที่ฐานะไม่ดี ตรงนั้นจะช่วยใช้เงินอย่างเป็นประโยชน์ คำขวัญ ณ ขณะนี้ เศรษฐกิจไทยต้องดี ระบบสาธารณสุขต้องไม่บรรลัย”

 

ขอบคุณ รายการโหนกระแส