เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

การล้างมือด้วยสบู่และน้ำไม่ใช่เพียงล้างเอาเชื้อไวรัสออกจากมือเท่านั้น

แต่นักเคมีบอกว่าสบู่ยังทำลายโคโรนาไวรัสด้วย

การล้างมือด้วยสบู่และน้ำไม่ใช่เพียงล้างเอาเชื้อไวรัสออกจากมือเท่านั้น แต่นักเคมีบอกว่าสบู่ยังทำลายไวรัสอย่างโคโรนาไวรัสด้วย

เชื้อไวรัสที่ติดต่อในระบบทางเดินหายใจอย่างโคโรนาไวรัส หรือไข้หวัดใหญ่ สามารถแพร่กระจายผ่านมือของเรา หากป่วยอยู่แล้ว มือเราอาจไปสัมผัสน้ำมูกจนเชื้อไวรัสติดอยู่ที่มือ หากไม่ป่วยมือเราอาจเป็นที่อยู่ของไวรัส เราอาจไปสัมผัสกับละอองเสมหะที่มีเชื้อไวรัส เชื้อก็จะติดอยู่ที่มือ และอาจเข้าสู้ร่างกายเราได้ง่ายๆ เพียงแค่เราสัมผัสใบหน้า

เพราะฉะนั้น “มือ” คือแนวหน้าในการสู้กับเชื้อโคโรนาไวรัส ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) แนะนำว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำคือวิธีทำความสะอาดที่ได้ผลที่สุด หากไม่สะดวกให้ใช้แอลกอฮอล์เจลที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60%

CDC สหรัฐให้ความสำคัญกับสบู่และน้ำเป็นอันดับแรก แต่หลายคนอาจสงสัยว่าสบู่ธรรมดาจะช่วยกำจัดเชื้อไวรัสได้อย่างไร

เรื่องนี้ พัลลี ธอร์ดาร์สัน นักเคมีจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียมีคำตอบ

ธอร์ดาร์สันเผยไว้ในทวิตเตอร์ว่า สบู่เปรียบเสมือนทีมทำลายล้างที่เข้าไปทำลายตึกด้วยการพังทลายอิฐทีละก้อน

เพราะฉะนั้นการล้างมือจึงไม่เพียงแต่เป็นการล้างเชื้อไวรัสออกจากมือเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายไวรัสด้วย

ธอร์ดาร์สันยังอธิบายขยายความความสำคัญและการทำงานของสบู่กับเว็บไซต์ Vox ว่า สบู่จะมีสองขั้ว ขั้วหนึ่งจะชอบน้ำแต่ไม่ชอบโปรตีนและไขมัน อีกขั้วหนึ่งไม่ชอบน้ำแต่ชอบโปรตีนและไขมัน คุณสมบัติข้อนี้ทำให้สบู่มีประสิทธิภาพที่สุด

ศาสตราจารย์รายนี้ยกตัวอย่างการทำงานของสบู่ว่า หากหยดน้ำมันลงในน้ำ น้ำมันจะรวมตัวกันลอยอยู่เหนือน้ำ เพราะน้ำมันไม่รวมตัวกับน้ำ แต่หากหยดน้ำสบู่ลงไป น้ำมันจะกระจายตัว

นั่นเป็นเพราะสบู่ขั้วที่ชอบไขมันจะไปจับกับน้ำมัน ส่วนขั้วที่ชอบน้ำก็จะดึงไขมันไปรวมกับน้ำ ทำให้น้ำมันแตกตัว

หรือจะสรุปง่ายๆ ก็คือสบู่จะเข้าไปล้อมรอบน้ำมัน แล้วแยกน้ำมันที่รวมตัวกันอยู่ให้กระจายออก

หลักการนี้ใช้ได้ผลกับเชื้อโคโรนาไวรัสเช่นกัน เนื่องจากเชื้อจะถูกล้อมรอบด้วยไขมันและโปรตีน

เมื่อเจอสบู่ ไขมันเหล่านี้จะถูกแยกออกจากกัน และแม้จะมีส่วนที่เข้าไปรวมตัวกับไขมัน แต่โปรตีนและไขมันที่เป็น

เกราะป้องกันโคโรนาไวรัสจับตัวกันอยู่หลวมๆ ทำให้สบู่สามารถทำลายเกราะป้องกันของโคโรนาไวรัสได้ง่ายดาย

เมื่อเกราะคุ้มกันแตกเชื้อไวรัสก็แตกออกด้วย และหมดฤทธิ์ไปในที่สุด

ธอร์ดาร์สันยังเผยอีกว่า เงื่อนไขสำคัญก็คือ ปฏิกิริยาเหล่านี้ต้องใช้เวลา และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต้องล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที

นอกจากนี้ ผิวหนังบนมือของเรายังเต็มไปด้วยรอยย่อนรอยพับต่างๆ ดังนั้นกว่าสบู่จะซึมเข้าไปยังซอกเล็กๆ และกำจัดไวรัสหรือเชื้อโรคที่ซุกซ่อนอยู่จึงต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง

ส่วนแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในแอลกอฮอล์เจลก็สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้เช่นกัน โดยใช้หลักการทำงานคล้ายกับสบู่ แต่ต้องใช้แอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงจึงจะมีประสิทธิภาพ และอาจไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเท่าสบู่

ทว่า หากมือเปียกหรือมีเหงื่อขณะใช้แอลกอฮอล์เจล ประสิทธิภาพการกำจัดไวรัสก็จะลดลง เนื่องจากถูกน้ำหรือเหงื่อเจือจาง

“สบู่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสูตรไหน และไม่จำเป็นต้องเป็นสบู่สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพียงสบู่ทั่วไปก็ได้ผลแล้วตราบเท่าที่เราล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที” ธอร์ดาร์สันอธิบายทิ้งท้าย