เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หน่วยปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบฯ” ควบคุมตัว 5 ผู้ต้องหาทีมสังหาร “กำนันเตี้ย” มายังกองบังคับการปราบปราม ผบ.ตร.เตรียมสอบปากคำ

จากกรณีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทำทีเข้ามาขอซื้อเครื่องดื่มชูกำลังที่บ้าน นางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี กำนันตำบลผาตั้ง หรือ กำนันเตี้ย บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงที่ศีรษะจนเสียชีวิตคาห้องครัว เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบฯ” คุมตัว 5 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายสามารถ ทิพยศักดิ์ อายุ 57 ปี ผู้จ้างวาน 2.นายสำริด สังข์สิงห์ อายุ 59 ปี ผู้จ้างวาน 3.นายประสิทธิ์ อินทร์เนื่อง อายุ 55 ปี คนรับงานและดูแลมือปืนในพื้นที่ 4.นายธนภูมิ พรหมมาตร อายุ 37 ปี มือปืน และ 5.น.ส.พนิดา จุนเด็น อายุ 31 ปี ภรรยาและเป็นทั้งมือปืนและคนพามือปืนหลบหนีด้วย

โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ร่วมสอบปากคำ พร้อมไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในห้องสอบปากคำ ขณะที่นายธนภูมิ ซึ่งเป็นมือปืน แสดงท่าทีไม่พอใจผู้จ้างวานอย่างเห็นได้ชัด

จากการสอบสวนพบว่านายธนภูมิ ให้เมียเก่าขับรถให้ตนมาก่อเหตุดังกล่าว โดยใช้อาวุธปืนขนาด11 มม.สังหาร โดยก่อนเกิดเหตุนายสามารถ คนจ้างวานได้โอนเงินให้นายธนภูมิ 110,000 บาท หลังเกิดเหตุก็โอนให้อีก 70,000บาท รวมเป็นเงิน 180,000บาท

ทั้งนี้คนร้ายนั้นใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ที่ พฐ.ตรวจที่กองปราบปรามเมื่อช่วงกลางวันนั้น นายธนภูมิ และ น.ส.พนิดา ใช้ขับรถซื้อ จยย.และขับไปดูจุดสังหารก่อนวันเกิดเหตุ โดยวันเกิดเหตุนายธนภูมิ ใช้ จยย.ที่ซื้อมาขี่ไปยิงกำนันเตี้ยก่อนเอาไปทิ้งที่ จ.อุดรธานี แล้วขึ้นรถโตโย้า วีออส สีขาวขับจากจุดทิ้ง จยย.ไปถึงแยกน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่นายประสิทธิ์ รอรับอยู่และได้ขับรถกระบะ นิสสัน นาวารา สีแดงรับนายธนภูมิ ไปหาภรรยาแล้วหลบหนีไป ซึ่งตามจับกุมได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี หนองคาย และกรุงเทพฯ

เบื้องต้นชัดเจนว่าสาเหตุของการฆาตกรรมมาจากปมความขัดแย้งเรื่องที่ดินสปก. ในพื้นที่ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่กำนันเตี้ยเข้าไปเกี่ยวข้องในบทบาทของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทำให้อีกฝ่ายเสียผลประโยชน์