เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ศาลฎีกา ตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ประหารชีวิตอดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ดักถีบจักรยานยนต์ ฉุดน้องสโนว์ฆ่าข่มขืน แม่เผยรอมาหลายปี วันนี้ลูกได้รับความเป็นธรรม

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญกรณี น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ น้องสโนว์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ วัย 18 ปี ถูกคนร้ายถีบรถจักรยานยนต์ล้ม เพื่อหวังจะข่มขืนแต่เหยื่อขัดขืนจึงถูกทำร้ายร่างกาย จนตับแตก และมีเลือดออกในช่องท้อง โดยเหตุการณ์เกิดบริเวณถนนสายบ้านสีถาน-บ้านโนนเมือง หมู่ 8 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2558

หลังจากนั้นกว่า 3 เดือน เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยในปี 2560 ศาลชั้นต้นจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตัดสินประหารชีวิตนายกฤติเดช และให้จ่ายค่าสินไหม 2,390,000 บาท และในปี 2561 ศาลอุทธรณ์ ตัดสินยืนโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม ตามศาลชั้นต้น

ล่าสุด วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีหมายเลขดำที่ อ. 2112/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1381/2560 ที่โจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ และ นางลำไย โจทก์ร่วมที่ 1 นายกฤษ โจทก์ร่วมที่ 2 ยื่นฟ้อง นายกฤติเดช อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.58 หลังจากที่ น.ส.ฤดีวัลย์ หรือ น้องสโนว์ ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงเรียนตามปกติ

นายกฤษ และ นางลำใย พ่อแม่ของน้องสโนว์ พร้อมนางสาวภัทรานิษฐ์ และญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนบ้านเดินทางมาฟังคำพิพากษาตั้งแต่เช้าเวลา 08.30 น. โดยนางลำใยยังคงสวมชุดข้าวไว้ทุกข์และกอดรูปถ่ายของน้องสโนว์ ลูกสาวไว้แนบอกตลอดเวลาเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ท่ามกลางความสงสารของประชาชนที่พบเห็น และมีเจ้าหน้าที่ศาลกำหนดพื้นที่ให้สื่อมวลชนที่มาคอยติดตามคดี พร้อมกับดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปฟังคำตัดสินในช่วงเวลา 09.30 น.

โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ให้กับจำเลยฟังในช่วงเวลาประมาณ 10.00  น. ใช้เวลากว่า 30 นาที แต่ไม่มีญาติของจำเลยมาร่วมรับฟัง โดยสาระสำคัญที่จำเลยฎีกามีความขัดแย้งกันหลายอย่าง อีกทั้งศาลอุทธรณ์พิจารณาก่อนหน้านี้ ถึงแม้ฝ่ายโจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานแน่ชัด

แต่ปรากฏพยานแวดล้อมหลายปากที่ให้การสอดคล้องกัน ร่วมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยแผลที่บริเวณนิ้วมือ ซึ่งเป็นรอยกัดของฟันของมนุษย์ และลูกอัณฑะที่บวม เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ที่ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ก็มีหลักฐานยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์ว่ามีร่องรอยเฉี่ยวชนกัน

ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเป็นพยานและหลักฐานที่มั่งคง จึงตัดสินให้ลงโทษตามศาลศาลอุทธรณ์ คือประหารชีวิต นายกฤติเดช จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ครอบครัวพลประสิทธ์ฟังคำตัดสินเสร็จแล้วได้เดินออกมาจากศาลด้วยอาการน้ำตาซึม พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชน

นางลำใย แม่น้องสโนว์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตมาจนถึงปัจจุบันผ่านล่วงเลยมากว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวได้บอกกับน้องสโนว์ว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรม และครอบครัวจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด กระทั่งในวันนี้ลูกสาวก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชนที่คอยให้กำลังใจตลอดมา

ด้าน นางสาวภัทรานิษฐ์ พี่สาวน้องสโนว์ กล่าวว่า วันนี้อยากบอกน้องสาวว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง และน้องก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว คนร้ายก็ถูกตัดสินดำเนินคดีแล้ว ต่อไปตนก็ต้องทำหน้าที่ลูก ดูแลพ่อแม่แทนน้องสาว