ผู้โดยสารเครื่องบินชายรายหนึ่ง ถูกบังคับลงจากเที่ยวบินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลนส์ (เอเอ) ของสหรัฐ ก่อนจะออกเดินทางจากสนามบินเมืองดัลลัส ในรัฐเทกซัส ไปยังเมืองฮิวสตัน ในรัฐเดียวกัน เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) เนื่องจากไม่ยอมถอดหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ ที่สวมขึ้นไปบนเครื่อง ตามคำขอร้องของแอร์โฮสเตส
การสวมหน้ากากของชายคนดังกล่าว สร้างความอึดอัดใจแก่ผู้โดยสารอื่นๆ หลายคน และแอร์โฮสเตสจัดการนำตัวลงจากเครื่อง หลังจากเขาปฏิเสธที่จะถอดหน้ากาก เหตุการณ์ทำให้เครื่องบินออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดเกือบ 1 ชั่วโมง
นายโจเซฟ เซย์ ผู้โดยสารรายหนึ่งของเอเอ เที่ยวบินดังกล่าว เผยต่อผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุ เคทีอาร์เค ในเมืองฮิวสตันว่า ตอนแรกทุกคนบนเครื่องเข้าใจว่าผู้โดยสารรายนี้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดจากประเทศจีนไปทั่วโลก แต่พอสังเกตเห็นหน้ากากไม่มีเครื่องกรอง จึงต่างเกิดความวิตก อาจเป็นการปิดบังหน้าเพื่อก่อการร้ายอะไรบางอย่าง นอกจากนั้น ผู้หญิงที่นั่งติดกับเขาเผยต่อแอร์โฮสเตสว่า ชายสวมหน้ากากต้องการออกแถลงการณ์
เจ้าหน้าที่สนามบินดัลลัสเผยว่า ชายคนดังกล่าวลงจากเครื่องของเอเอ และจองตั๋วโดยสารใหม่ เดินทางไปกับสายการบินอื่น แต่คราวนี้เขาไม่สวมหน้ากาก.