เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สุดทน…!! พ่อแม่สามี พาสะใภ้แจ้งความ ถูกลูกชายกับกิ๊ก

รุมทำร้าย เตะต่อย เลือดอาบ

 

วันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สองสามีภรรยา ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ พา น.ส.เตือนใจ อายุ 44 ปี

เป็นลูกสะใภ้ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังจาก

ได้ถูกนายเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี เป็นสามี และ น.ส.บี (นามสมมติ) แฟนใหม่ รุมทำร้ายร่างกาย จนได้รับ

บาดเจ็บ มีแผลเต็มใบหน้า เหตุเกิดใกล้กับศูนย์จำหน่ายสินค้าแห่งหนึ่ง

   น.ส.เตือนใจ กล่าวว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับ นายเอ มานานกว่า 14 ปีแล้ว แต่เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา

สามีแอบนอกใจไปคบกับ น.ส.บี ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในตำบลเดียวกัน ทั้งยังนำเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง

ด้วยกัน ไปให้ผู้หญิงคนดังกล่าวด้วย ซึ่งตนก็พยายามบอกให้หญิงคนดังกล่าวเลิกยุ่งกับสามีของตน แต่ก็ไม่

ยอมเลิก

น.ส.เตือนใจ กล่าวต่อว่า จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นชู้กับสามี กระทั่ง

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตัดสินให้หญิงคนดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายพร้อม

ดอกเบี้ยเป็นเงินกว่า 300,000 บาท อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ และปัจจุบันทั้งสองยังคงคบหากันอยู่

น.ส.เตือนใจ กล่าวต่อว่า ซึ่งทั้งพ่อและแม่ของสามีก็มาเป็นพยานให้ด้วย หลังจากฟังศาลตัดสินเสร็จตนก็พา

น้องสาวไปทานข้าวที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง แล้วบังเอิญเจอกับหญิงคู่กรณีเดินมากับสามี จึงตะโกนเรียกชื่อของ

ผู้หญิงแล้วผู้หญิงก็วิ่งเข้ามาหาตน จนเกิดการตบตีกันชุลมุน แล้วสามีก็เข้ามาเตะ ต่อยรุมทำร้ายตนซ้ำอีก ต่อ

หน้าผู้คนที่ผ่านไปมา จนมี รปภ.เข้ามาห้าม หลังจากถูกรุมทำร้ายก็มีรอยเขียวช้ำตามร่างกายและมีแผลเต็มใบ

หน้าจนเลือดอาบ

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมาก เพราะนอกจากจะถูกสามีนอกใจแล้ว ยังมาถูกทำร้ายร่างกายอีก

หลังจากเกิดเหตุทางพ่อแม่สามี จึงได้พามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และตอนนี้ก็ยังไม่กล้ากลับบ้านเพราะ

เกรงจะไม่ปลอดภัย” น.ส.เตือนใจ กล่าว

ด้านพ่อของนายเอ เผยว่า ตนเห็นสิ่งที่ลูกชายทำกับลูกสะใภ้ก็ทนไม่ได้ เคยเตือนลูกแล้วแต่ก็ไม่ฟัง แถม

ยังพาลไม่พอใจพ่อแม่อีก ถึงขั้นมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด่ากระทั่งญาติพี่น้อง จึงประกาศตัดพ่อลูก เพราะ

รับไม่ได้กับสิ่งที่กระทำ รู้สึกช้ำใจมากไม่คิดว่าลูกจะทำกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้ขนาดนี้ ก็ไม่อยากให้ลูกชาย

เป็นเยี่ยงอย่างกับลูกคนอื่น ๆ เพราะคนแบบนี้ไม่สมควรจะยืนอยู่ในสังคม