เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีโลกออนไลน์มีการเปิดเผยเรื่องราว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาคนหนึ่งปาดคอเพื่อนนักเรียนด้วยกันจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งของจ.ปทุมธานี และทางโรงเรียนพยายามที่จะปิดเรื่องนี้ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียล จนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. แฮชแท็ก #รรชื่อดังย่านปทุม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศเป็นอันดับต้น ๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สภ.เมืองปทุมธานี ว่าวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหาย อายุ 18 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมโรงเรียนเดียวกัน ที่ได้ทำร้ายร่างกายโดยใช้ขวดที่แตกเป็นปากฉลาม ตบที่คอข้างขวาของผู้เสียหาย

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลปทุมธานีและมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด สำหรับประเด็นสื่อให้ความสนจากกระแสในโลกโซเชียลมีเดียว่า พนักงานสอบสวนทำเพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้นั้น ขอเรียนว่า ตั้งแต่วันที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว พร้อมทั้งยังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ บันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนยังคงต้องรอสอบปากแพทย์โรงพยาบาลปทุมธานี ที่ทำการรักษาและชันสูตรบาดแผลการถูกทำร้ายร่างกาย ประกอบกับสอบปากคำประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์รายอื่น ๆ

“ในส่วนผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถทำการพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว โดยพนักงานสอบสวน จะได้ออกหมายเรียก หรือ เชิญตัว เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาเบื้องต้น ในความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 295” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

รองโฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวน ในการอำนวยความยุติธรรม ประชาชนที่มาติดต่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษโดยตลอด ให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม นับตั้งแต่ชั้นสืบสวนสอบสวน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ หรือ พยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหา ตลอดจน การสอบปากคำให้สิ้นกระแสความทุกประเด็น เพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยในคดีและการเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ส่วนนักเรียนชั้น ม.6 ผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพ ที่ทำไปเพราะเครียดจัด ร้องไห้ขอโทษคู่กรณี เผยครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน จนมีอาการทางประสาทจริง ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และขาดยามา 1 ปีแล้ว