เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายชื่อดังเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจทนายคู่ใจ ได้โพสต์คลิปวีดีโอวิเคราะห์ในแง่งุมทางกฏหมายกรณีเหตุการณ์ร้อนในโลกโซเชี่ยลอาม่าตบเด็ก  ทั้งนี้ทนายรณรงค์ ระบุว่าในมุมมองทางกฏหมายการด่าทอกันไปมา กฏหมายยังเอาผิดไม่ได้เพราะไม่ได้ดูหมิ่นซึ่งหน้า ในคลิปที่ปรากฏ อาม่าตบเด็กแล้วเด็กสวนกลับ หากถ้าจะดูทางกฏหมาย ต้องดูว่าต้นเหตุเกิดจากอะไร จะอ้างว่าเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาทก็ได้ แต่น้องนักเรียนจะบอกว่าเป็นการป้องกันตัว น้องจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดเลย

ทนายรณรงค์ยังบอกอีกว่าตนเองนั้น ไม่ได้บอกว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด จะผิดมากน้อยขึ้นอยู่กับคู่กรณีว่าเจ็บมากน้อยเพียงใด การทำร้ายร่างกายแบบไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ หรือทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ จะลหุโทษ หรือ มาตรา 295 ซึ่งโทษ 2 ปี ปรับ 4 หมื่น ขึ้นอยู่ที่บาดแผลที่ทำร้ายร่างกาย

ทนายรณรงค์กล่าวต่อว่าสำหรับผู้ใหญ่ทะเลาะกับเด็ก กฏหมายคุ้มครองเยาวชน ประการแรก ถ้าอาม่าแจ้งความว่า เด็กทำร้ายร่างกาย เด็กจะได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ตามวิธีพิจารณาคดีเด็กเยาวชน ต่อให้เด็กสวนกลับจนอาม่าน็อคสลบคาที่ ยังไงเด็กก็ไม่ถูกส่งเข้าสถานพินิจ เพราะอาม่าไปตบเขาเอง แต่ทางฝั่งอาม่าต้องขึ้นศาลผู้ใหญ่ เพราะการทำร้ายร่างกายไม่สามารถยอมความได้ ทำแบบนี้ผิดกฏหมายทั้งคู่ ถ้าเด็กอายุไม่ถึง 15 ห้ามลงโทษทางอาญา ถ้าเกิดกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี ห้ามรับโทษทางอาญา คาดว่าเต็มที่ศาลคงแค่ตักเตือนเด็ก แต่อาม่าไปตบหน้าเด็กศาลคงไม่เตือนอาม่า เพราะกฏหมายต้องจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

 

อาม่าตบเด็กในโรงเรียน ต่อมาเด็กสวนกลับ ใครผิดมากกว่ากันมาดู #อาม่าตบเด็ก

โพสต์โดย ทนายคู่ใจ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2019