เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พ.ต.ต. อาสา จันทรมณี สารวัตร (สอบสวน) ตำรวจนครบาลท่าเรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณทางเดินชุมชนโรงหมู แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมบัติ แก่นวิจิตร ผู้กำกับการตำรวจนครบาลท่าเรือ พ.ต.ท. ยรรยง สุวรรณสอาด รองผู้กำกับการตำรวจนครบาลท่าเรือ กำลังตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

โดยจุดเกิดเหตุเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ พบกองเลือดขนาดใหญ่ และมีทางกู้ชีพนำผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 ราย ส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อภายหลัง นายสมชาย ยอดเพ็ชร อายุ 21 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด.38 จำนวน 2 นัด เข้าที่ขาและศีรษะ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีกราย นายพิทักษ์ หอมจิตร อายุ 23 ปี ถูกลูกหลง กระสุนปืนเข้าที่ท้อง อยู่ระหว่างรักษาตัว จึงรวบรวมไวัเป็นหลักฐาน



สอบสวน นายขวัญ ยอดเพชร อายุ 32 ปี พี่ชายของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ก่อเหตุมีฐานะดี ครอบครัวทำธุรกิจค้าขายเนื้อวัวอยู่ตลาดคลองเตย ก่อนหน้านี้ เคยมีเรื่องทะเลาะกับบ้านตนหลายครั้ง จนมีการแจ้งความดำเนินคดีกรณียิงใส่บ้านจนทำให้ตนบาดเจ็บ และอีกครั้งปล่อยสุนัขพันธุ์พิตบลู มากัด กระทั่งช่วงค่ำที่ผ่านมา น้องชายตนกำลังจับกลุ่มกับเพื่อนอยู่บริเวณลานจอดรถดังกล่าว

โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา เข้ามา ก่อนจะตะโกนใส่น้องตนว่า “ยืนทำไรทำไมไม่ขยับรถ” เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นลานจอดรถ มีรถจักรยานยนต์จอดเรียงกันอยู่ไปขวางทางเข้าบ้านผู้ก่อเหตุ แต่ด้วยรถที่ขวางไม่ใช่รถผู้ตาย จึงยืนนิ่ง จนมีปากเสียง และมีการลงไม้ลงมือขึ้น กระทั่งฝ่ายผู้ก่อเหตุชักอาวุธปืนออกมายิงเข้าที่ขาผู้ตาย 1 นัด พร้อมกอดคอผู้ตาย และจ่อยิงระยะเผาขนที่หัว 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นทางกลุ่มเพื่อนน้องชายพยายามจะเข้ามาช่วย แต่โดนลูกหลงไปด้วย และผู้ก่อเหตุจึงรีบหนีไป



ต่อเวลา 00.15 น.ทางตำรวจสามารถจับกุมตัว นายคณภร เมืองเอี่ยม หรือ นุ อายุ 32 ปี ผู้ที่ลงมือก่อเหตุไว้ได้ พร้อมของกลางปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระปืน .38 จำนวน 2 นัด โดยระหว่างคุมตัวเพื่อไปสถานีตำรวจ มีบรรดาญาติและกลุ่มเพื่อนของผู้ตาย กว่า 50 คน ต่างกรูที่จะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ แต่ทางตำรวจรีบนำตัวมายังสถานี ก่อนนำตัวเข้าห้องขังทันที เบื้องต้นจากการสอบสวน เจ้าตัวให้การอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป