เว็บไซต์ FOX13 รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของหญิงชรา ในบ้านพักคนชราที่รัฐยูทาห์ สหรัฐฯ มีอันต้องช็อกเมื่อได้พบกับความลับที่เก็บซ่อนไว้ภายในตู้แช่แข็งของเธอคนนี้ นั่นคือศพสามีของเธอที่อาจถูกแช่แข็งทิ้งไว้มาเป็นเวลาถึง 11 ปี โดย เจเรมี ฮันเซน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกรมตำรวจเมืองทูเล เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากช่างซ่อมบำรุงประจำบ้านพักคนชราดังกล่าว ให้เข้าไปตรวจเช็กสวัสดิภาพของ จีน ซูรอน-แมเธอร์ส หญิงวัย 75 ปี เมื่อช่วงสายวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ภายหลังจากพวกเขาไม่เจอเธอมาร่วม 2 สัปดาห์
ตอนที่เจ้าหน้าที่ไปถึง พวกเขาก็พบว่าคุณยายจีนได้เสียชีวิตแล้ว อยู่บนเตียงในห้องพักของเธอเอง โดยไม่ปรากฏร่องรอยบาดแผลใด ๆ ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่ก็คิดเพียงว่าคดีนี้คงไม่มีอะไรมาก และไม่มีเรื่องต้องสงสัยอะไร จึงโทร. ตามเจ้าหน้าที่นักสืบให้เข้ามาตรวจสอบต่อตามขั้นตอน แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าหลังจากนั้น พวกเขาจะพบเจอกับบางอย่างที่ชวนช็อกสุด ๆ นั่นก็คือศพที่ 2 ซึ่งโผล่มาในตู้แช่แข็งของหญิงชรา “ผมอยู่ที่นี่มา 13 ปี และนี่เป็นหนึ่งในเคสที่แปลกที่สุด เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน” เจเรมี เผย
เพื่อจะตรวจสอบว่าหญิงชราเสียชีวิตมานานแค่ไหนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงพยายามหาเบาะแสจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเธอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเช็กดูอาหารในตู้เย็นและตู้แช่แข็ง ซึ่งจะช่วยบอกใบ้ได้ว่าเจ้าของห้องน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ตอนไหน ทว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่นักสืบมองลึกเข้าไปภายในตู้แช่แข็ง พวกเขาก็พบร่างของชายไม่ปรากฏชื่อที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์
เพื่อที่จะหาคำตอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร และเสียชีวิตมานานแค่ไหนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้สอบถามเพื่อนบ้านว่าพบเห็นผู้ชายเข้า-ออกห้องของหญิงชราครั้งล่าสุดเมื่อไร ซึ่งก็ได้คำตอบที่หลากหลายมาก ซึ่งทางตำรวจได้ตีกรอบเวลาประเมินว่าศพดังกล่าวน่าจะอยู่ในตู้แช่แข็งนี้มานานตั้งแต่ 1 ปีกว่า ๆ หรืออาจนานถึง 11 ปี
ด้าน เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ผลจากการชันสูตร เจ้าหน้าที่พบว่าศพของชายคนดังกล่าวนั้นก็คือ พอล เอ็ดเวิร์ด แมเธอร์ส ซึ่งเป็นสามีของคุณยายจีน โดยในตอนนี้ได้มีการเปิดฉากการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของคุณตาแล้ว เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ขณะที่คดีการเสียชีวิตของคุณยายจีน เจ้าหน้าที่มองว่าไม่ได้มีความผิดปกติที่น่าสงสัยอะไร
Cr. Kapook