รองผบช.น.เข้าตรวจสอบบ้านเกิดเหตุฆ่าหั่นศพ เผยตรวจภาพวงจรปิดย้อนหลัง 2 วันไม่พบบุคคลอื่นเข้าไปในบ้านนอกจากแม่-ลูก ยืนยันลูกชายลั่นไกยิงตัวเอง
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 62 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบ้านพักที่เกิดเหตุฆ่าหั่นศพแม่ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงก่อนวันที่พบศพตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา เห็นเพียงผู้ตายและลูกชายเข้าไปภายในบ้านโดยไม่มีผู้อื่นเข้าไปอีก จนกระทั่งมีเพื่อนผู้ตายเข้าไปหาเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.และพบว่าลูกชายมีพิรุธจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
“ตั้งแต่ลูกชายเข้าบ้านมากับแม่ ก็ยังไม่มีคนอื่นเข้ามาในบ้านอีกเลยจนกระทั่งเพื่อนแม่เข้ามาพบศพ ซึ่งคาดว่าเหตุฆาตกรรมน่าจะเกิดช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. เพราะเพื่อนผู้ตายได้มีการติดต่อเรื่องงานผ่านไลน์ แต่ผู้ตายไม่ตอบ เพื่อนจึงเดินทางมาหาที่บ้านในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. เมื่อเพื่อนผู้ตายเข้าไปพบลูกชายผู้ตายและคุยกันไม่รู้เรื่องจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ”
“เพื่อนผู้ตายเห็นว่าลูกชายมีอาการพูดคุยไม่รู้เรื่อง บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เข้าไปในบ้านและพยายามจะขึ้นรถออกไป เพื่อนจึงเชื่อว่าน่าจะมีอะไรบางอย่าง จึงวิ่งเข้าไปดูภายในบ้านและไปเปิดตู้เย็นจึงพบศพ” พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าว
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาตรวจสอบบ้านเกิดเหตุหลังได้รับแจ้งเห็นในช่วงที่ ลูกชายผู้ตายใช้ปืนจ่อศีรษะอยู่ที่บันไดก่อนจะลั่นไกยิงตัวเอง และจากการตรวจสอบรอยกระสุนปืนภายในที่เกิดเหตุก็มีเพียงรอยเดียว ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายมีปืนในครอบครองเนื่องจาก ทำธุรกิจลิสซิ่งและอยู่ตัวคนเดียว บางครั้งจำเป็นต้องถือเงินจำนวนมากไปมา
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวด้วยว่า ส่วนเพื่อนของแม่ที่เข้าไปเจอศพคนแรก เพราะติดต่อคนตายไม่ได้ เลยมาตามที่บ้าน ก่อนเจอลูกชายท่าทางมีพิรุธและไม่ให้เข้าบ้าน จึงต้องแจ้งตำรวจและไปพบศพในตู้เย็น ซึ่งพยานที่เจอศพคนแรกได้เปิดดูทั่วบ้าน ทั้งตู้เสื้อผ้าและทุกห้อง เนื่องจากมีข้อสงสัยและลูกชายมีพิรุธ พยานไม่ได้เปิดดูเฉพาะตู้เย็น
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวยืนยันว่า จากผลการชันสูตรศพแม่พบด้วยว่า การหั่นศพใช้วิธีนำมีดมาวางแล้วใช้ค้อนตอก เพราะบนมีดมีรอย ส่วนห้องน้ำบนบ้านก็เจอคราบเลือดกระจายไปทั่ว โดยนำชิ้นส่วนศพล้างในห้องน้ำ จากนั้นก็นำชิ้นส่วนทั้งหมดล้างเลือดให้สะอาด แล้วก็เอาชิ้นส่วนแม่ใส่ในถุงพลาสติก แล้วเอามาแช่ตู้เย็น ส่วนที่มีการเฉือนเต้านมนั้น คาดว่าไม่สามารถเอาชิ้นส่วนเข้าตู้เย็นได้ เลยพยายามหั่นให้ชิ้นเล็กลง พร้อมยืนยัน 100 % ว่าคนที่ก่อเหตุมีเพียงคนเดียวคือ นายศิระ